ใครอยากมีรูปถ่ายชุดแต่งงานสวย ๆ กับสถานที่โรแมนติกในฝันมาทางนี้! วันนี้ SabuyWedding จะมาบอกทริคเกี่ยวกับการถ่าย Pre Wedding ต่างประเทศค่ะ ว่าควรไปถ่ายช่วงไหนดี มีวิธีการเตรียมตัวถ่ายพรีเวดดิ้งอย่างไรบ้าง และค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่นั้น ตามมาดูเลยค่ะ
ไปถ่าย Pre Wedding ต่างประเทศช่วงไหนดี ?
อย่างแรกที่ควรคำนึงถึงคือการเลือกช่วงเวลาที่จะเดินทางไปถ่ายรูป บ่าวสาวควรเลือกเดือนหรือฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว หากวางแผนไม่ดี อาจเจอแจ็กพ็อตเป็นฤดูมรสุม อุณหภูมิสุดขั้ว หรือทิวทัศน์แห้งแล้งได้ค่ะ โดยช่วงที่แนะนำสำหรับการถ่ายพรีเวดดิ้ง ได้แก่
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
ช่วงพีคสำหรับการท่องเที่ยวและการถ่ายภาพ เพราะอากาศไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ต้นไม้อุดมสมบูรณ์ และดอกไม้ผลิบาน วิวต้นซากุระสีชมพู หรือทุ่งดอกไม้ละลานตาเป็นไอเดียที่ดีของการถ่าย Pre Wedding ค่ะ โดยฤดูนี้ประเทศที่เหมาะจะไปพรีเวดดิ้ง เกาหลี ญี่ปุ่น ปารีส ลอนดอน หรือประเทศในโซนยุโรปก็อากาศกำลังเย็นสบายค่ะ
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงส้มและเหลืองทองร่วงหล่นเต็มท้องถนน ก็สวยงามและให้ฟีลอบอุ่นหัวใจไปอีกแบบค่ะ โดยเพื่อน ๆ สามารถเลือกไปถ่ายพรีเวดดิ้งในฤดูนี้ได้ทั้งเอเชียและยุโรปเลยค่ะ
- ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
การถ่าย Pre Wedding ฤดูหนาวหรือช่วงหิมะตกก็เป็นไอเดียที่ดีสำหรับการถ่ายรูปฟีลหนาว ๆ ในต่างประเทศค่ะ แถมถ้าไปช่วงปลายเดือนธันวาคม ยังได้บรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่อีกด้วย โดยเฉพาะประเทศทางยุโรป นอกจากนี้ มาเก๊าและไต้หวันก็เหมาะจะไปช่วงฤดูหนาวเช่นกัน เพราะอากาศไม่ร้อนอบอ้าวหรือมีมรสุมค่ะ
การเตรียมตัวถ่าย Pre Wedding ต่างประเทศ
ช่างภาพ
- ควรเลือกช่างภาพที่รับถ่าย Pre Wedding โดยเฉพาะ เพราะมีความเชี่ยวชาญในการจัดการ ไกด์ท่าทาง และรู้มุมของรูปถ่ายที่สามารนำไปใช้งานต่อได้
- เลือกแพ็กเกจถ่าย Pre Wedding ต่างประเทศโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งแพ็กเกจเฉพาะราคาค่าถ่ายภาพ พร้อมรูปอย่างเดียว ซึ่งบ่าวสาวจะต้องรับผิดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ แยกต่างหาก และแพ็กเกจแบบรวมทั้งหมด ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ที่พักทีมงาน ช่างแต่งหน้า และค่าใช้จ่ายจิปาถะ ซึ่งเราก็ต้องมาคำนวณดูว่าแพ็คเกจแบบไหนที่คุ้มค่าโดนใจเรามากกว่ากันค่ะ
- บ่าวสาวควรแจ้งช่างภาพไว้เลยว่าจะนำรูปถ่าย Pre Wedding ไปใช้ส่วนไหนของงานแต่งบ้าง เช่น แกลเลอรี พรีเซนเทชัน เพื่อให้ช่างภาพถ่ายภาพออกมาได้ครบถ้วน
- ก่อนเดินทางควรนัดหมายวัน เวลา สถานที่ คอนเซ็ปต์การถ่าย รวมถึงคุยกันให้เรียบร้อยว่าราคาแพ็กเกจถ่ายภาพนั้น รวมบริการและเงื่อนไขอะไรบ้าง ถ่ายได้กี่ชุด รีทัชให้ไหม ต้องซื้อรูปเพิ่มหรือเปล่า เพื่อให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหลังงานค่ะ
- อีกหนึ่งทางเลือกคือการจ้างช่างภาพที่อยู่ในประเทศที่เราจะไปถ่าย Pre Wedding ค่ะ ข้อดีคือเราจะไม่ต้องจ่ายค่าบินและที่พักในส่วนของทีมช่างภาพ และสามารถแนะนำเราเบื้องต้นได้อีกด้วย ข้อเสียคืออาจสื่อสารกันไม่เข้าใจ ทำให้ถ่ายภาพไม่โดนใจเราค่ะ
ชุดถ่าย Pre Wedding
- นอกจากชุดแต่งงานแล้ว ไปพรีเวดดิ้งถึงต่างแดนทั้งที แนะนำให้เตรียมชุดอื่น ๆ ไปถ่ายด้วย เพื่อจะได้รูปหลายคอนเซ็ปต์ไม่ซ้ำกันค่ะ เช่น ชุดประจำชาติที่ไปถ่าย กี่เพ้า กิโมโน ฮันบก ชุดกึ่งลำลองอย่างเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ หรือจะเป็นชุดราตรีสวย ๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ
- อย่าลืมเตรียมพร็อปไปด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นช่อดอกไม้ เครื่องประดับ แหวนแต่งงาน เวลเจ้าสาว หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อให้องค์ประกอบภาพดูไม่โล่งจนเกินไปค่ะ
- ทำลิสต์รายการชุด เครื่องประดับ รองเท้า และพร็อป แล้วจัดใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้วขึ้นไป เพื่อที่จะมีเนื้อที่เพียงพอ โดยแพ็คชุดเจ้าสาวลงในถุงพลาสติกหรือถุงผ้าแยกต่างหาก เช่นเดียวกับเวล จะได้ไม่เกิดการเกี่ยวจนชุดเสียหายค่ะ ส่วนรองเท้าให้แยกใส่ถุงผ้า อย่าลืมม้วนกระดาษเป็นก้อน ๆ ยัดไว้บริเวณหัวรองเท้า เพื่อป้องกันรองเท้าเสียทรงจากการกดทับด้วยค่ะ
เตรียมร่างกายก่อนถ่าย Pre Wedding
- ดูแลตัวเองให้ดีในช่วงก่อนเดินทาง พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยในระหว่างวันที่ไปถ่าย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอหรือเดินบ่อย ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนถ่าย จะได้ไม่เหนื่อยง่ายหากต้องเดินระยะไกลหรือถ่ายรูปทั้งวัน
- ทำสีผมและสีเล็บให้พร้อม หากสีผมเก่าเริ่มหลุด โคนดำขึ้น เล็บยาว สีลอก ภาพที่ออกมาจะดูไม่สวยได้ค่ะ
- ฝึกโพสท่าหน้ากระจกดูว่ามุมไหนของเราที่ดูดี ยิ้มแบบไหนสวย อาจหาเรฟท่าโพสเก๋ ๆ เก็บไว้เป็นแบบก็ได้นะ
ค่าใช้จ่ายในการถ่าย Pre Wedding ต่างประเทศ
หากไม่ได้ซื้อแพ็คเกจที่รวมราคาทุกอย่างไว้ ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นที่บ่าวสาวจะต้องรับผิดชอบ นอกจากค่าจ้างช่างภาพ ได้แก่ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายของทีมช่างภาพ, ค่าชุด, ค่าแต่งหน้าทำผม, ค่าเข้าสถานที่ และค่าบริการอื่น ๆ ค่ะ โดยค่าใช้จ่ายถ่าย Pre Wedding จะขึ้นอยู่กับประเทศที่เลือกไปถ่าย หากเป็นประเทศในแถบเอเชีย ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน แต่หากเป็นประเทศโซนตะวันตก เตรียมงบไว้หลักแสนจะอุ่นใจมากกว่าค่ะ
การถ่าย Pre Wedding ต่างประเทศต้องอาศัยการวางแผนและเตรียมตัวอย่างรอบคอบค่ะ เพราะงบก็ไม่น้อย และหากเกิดความผิดพลาดก็ยากที่จะกลับไปถ่ายแก้ใหม่ แต่ผลลัพธ์ถือว่าคุ้มกับการลงทุนลงแรงค่ะ เพราะสามารถนำรูปไปใช้ในงานแต่งงานได้ แถมเป็นความทรงจำดี ๆ อีกด้วยค่ะ
Cr. ภาพจาก Pinterest