"พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม" ถือเป็นหนึ่งก้าวที่สำคัญในการยอมรับความหลากหลายและสร้างความเท่าเทียมในสังคมไทย SabuyWedding ขอแสดงความยินดีกับคู่รักทุกคู่ด้วยนะคะ เมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่านแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าคู่รัก LGBTQ+ จะได้รับสิทธิอะไรกันบ้าง?
1. สิทธิที่บุคคลทุกเพศสามารถหมั้น-เเต่งงานกันได้ โดยมีกฎหมายรองรับ
เดิมทีในบ้านเรายังไม่รองรับการแต่งงานของคู่รัก LGBTQ+ ทำให้หลายคู่เลือกไปจดทะเบียนสมรสที่ต่างประเทศ แต่เมื่อ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ผ่านแล้ว บุคคลทุกเพศจะได้รับสิทธิทางกฎหมายในการจดทะเบียนสมรส โดยมีข้อกำหนดว่าจะต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมด้วยค่ะ
2. สิทธิความเสมอภาคและเป็นกลางทางเพศ
ข้อกฎหมายสมรสเท่าเทียมยังมีการปรับใช้ถ้อยคำที่ไม่จำกัดเฉพาะชาย-หญิงเท่านั้น เช่น
- เปลี่ยนคำว่าชายและหญิงเป็น บุคคล, ผู้หมั้น, ผู้รับหมั้น
- เปลี่ยนคำว่าสามี-ภรรยา เป็น คู่สมรส
- เปลี่ยนบิดา-มารดา เป็น บุพการี
นอกจากนี้ พิธีการหมั้นก็ได้ถูกปรับให้สอดคล้องกับ "สมรสเท่าเทียม" ด้วยค่ะ โดยไม่จำกัดว่าฝ่ายชายต้องเป็นผู้ให้ของหมั้นและสินสอด โดยของหมั้นจะตกเป็นสิทธิของผู้รับหมั้นแทน สำหรับสินสอดก็จะเป็นทรัพย์สินที่ฝ่ายผู้หมั้นมอบให้แก่พ่อแม่ ผู้รับบุตรบุญธรรม หรือผู้ปกครองของฝ่ายผู้รับหมั้นค่ะ
3. สิทธิประโยชน์และสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส
บุคคลทุกเพศจะได้รับความเท่าเทียมในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของกันและกัน ซึ่งคู่สมรสจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายหลังจดทะเบียนสมรส ดังนี้
- สิทธิประโยชน์และสวัสดิการจากรัฐ เช่น สิทธิรับประโยชน์ทดแทนจากประกันสังคม, สิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
- สิทธิจัดการทรัพย์สินร่วมกัน
- สิทธิเป็นผู้จัดการแทนในทางอาญา
- สิทธิรับมรดกหากอีกฝ่ายเสียชีวิต
- สิทธิในการตัดสินใจแทนทางการแพทย์
- สิทธิในการจัดการศพ
4. สิทธิการเป็นพ่อแม่ของลูกตามกฎหมาย
คู่รัก LGBTQ+ ที่อยากมีทายาท เดิมทีสามารถรับเป็นผู้ปกครองได้เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่หากมี พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม จะสามารถรับอุปถัมภ์บุตรร่วมกันและให้บุตรบุญธรรมใช้นามสกุลคู่สมรสได้ รวมไปถึงการมีสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแล การศึกษา และสุขภาพของบุตรอย่างเต็มที่ด้วยค่ะ
5. สิทธิเรียกค่าทดแทนและฟ้องหย่า
นอกจากสิทธิโดยทั่วไป หากคู่รัก LGBTQ+ เกิดปัญหาความขัดแย้งหรือการหย่าร้างสิทธิจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมก็เกิดขึ้นด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเรียกค่าทดแทนจากอีกฝ่ายหากมีการผิดสัญญาหมั้น หน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงดูกันของคู่สมรส การจัดการสินสมรสร่วมกัน การหย่าร้าง สิทธิเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดู สิทธิในการเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งเป็นชู้กับคู่สมรส ฯลฯ
พูดง่าย ๆ ว่าสิทธิทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิทธิที่เท่าเทียมกันกับที่คู่สมรสตามกฎหมายเดิมนั่นเอง อย่างไรก็ตาม เราหวังว่าทุกคู่รักจะเข้าใจถึงสิทธิประโยชน์ของตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น เพราะสมรสเท่าเทียมไม่ใช่แค่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงมุมมองและการยอมรับในความหลากหลายของความรักในทุกมิติด้วยค่ะ