กุ้งกับแฮม (เจ้าบ่าว) คิดว่างานแต่งของเราไม่จำเป็นต้อง Perfect แต่ต้องจัดการเวลาได้เป๊ะ ดูแลแขกได้ครบ และเนื่องจากงานมี 3 พิธีในวันเดียว เช้าเป็นงานหมั้น บ่ายมีพิธีสมรสในโบสถ์ และเลี้ยงฉลองตอนเย็น ดังนั้นทุกอย่างต้อง Well Prepare การเลือกโรงแรมที่เดินทางสะดวก มีความยืดหยุ่นเรื่องบัดเจ็ท และพร้อมรองรับแขกทั้งผู้ใหญ่และครอบครัว จึงกลายเป็นคำตอบสุดท้าย และ Anantra Siam Bangkok Hotel (โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ) ก็ตรงใจทุกอย่าง ทั้งโลเคชั่นกลางเมือง ห้องบอลรูมขนาดกำลังดี เดินไม่ไกลจากที่จอดรถ แขกจะได้ไม่ลำบากค่ะ
เตรียมงานเองภายในเวลาแค่ 2 เดือน
ความยากของเราคือมีเวลาน้อย ด้วยฤกษ์แต่งงานที่ได้มาค่อนข้างกระชั้นชิด แล้วก็ไม่มีเวลาหาแพลนเนอร์ เลยตกลงกันว่าจะจัดงานกันเอง โดยแบ่งหน้าที่กัน กุ้งดูพาร์ทเกี่ยวกับโรงแรมทั้งหมด ทั้งสถานที่ อาหาร ธีมงาน ดีเทลต่าง ๆ ที่เหลืออย่างการ์ด ของชำร่วย ช่างภาพ ฯลฯ ให้แฮมจัดการค่ะ
ธีมงานที่ได้แรงบันดาลใจจาก “สวนอังกฤษ”
การตกแต่งงาน ทางโรงแรมเป็นคนดูแลให้ค่ะ เราแค่หาแบบและธีมสีส่งให้ทีมไปครีเอต ซึ่งธีมที่เลือกคือสวนอังกฤษ ใช้สีโทนที่เราทั้งคู่ชอบ อย่าง Burgundy - Navy Blue ตัดด้วย Beige นิดหน่อย ส่วนดอกไม้เน้นกุหลาบโทนสีเข้ม เพิ่มความโรแมนติก มินิมอล แต่ดูแพงค่ะ
ตอนเช้าเน้นฉากที่ดูคลีน แล้วเติมด้วยสีแดงเป็นหลัก เพื่อความเป็นสิริมงคล เหมาะกับพิธียกน้ำชา ส่วนงานเย็นใส่ความสวยหรูด้วยแสงเทียน โคมไฟ และแจกันโรมันสีน้ำตาลอ่อน ทำให้ได้บรรยากาศ “English Garden” มากขึ้นค่ะ
ลุคบ่าวสาว 3 สไตล์ แตกต่างแต่ลงตัว
ไหน ๆ ก็จัด 3 พิธีแล้ว วันนั้นเราก็อยากให้ลุคแตกต่างกันไปเลย เริ่มจากพิธียกน้ำชา กุ้งจะใส่ชุดจีนโมเดิร์นสีแดง คู่กับเจ้าบ่าวในชุดจีนเข้าธีม พอถึงพิธีโบสถ์ กุ้งเลือกเป็นเดรสลูกไม้แขนยาวเรียบร้อยตามกฎระเบียบ แต่แอบมิกซ์ความสวยกับความคล่องตัว เลยแอบใส่สนีกเกอร์ใต้กระโปรงยาวเพื่อความสบายค่ะ เพราะถ้าใส่ส้นสูงตั้งแต่เช้าจรดเย็นคงไม่ไหว สำหรับงานเย็น ต้องถ่ายรูปและเคลื่อนไหวเยอะ กุ้งจึงเลือกชุดที่เบา ใส่สบายที่สุด อย่างเกาะอกทรงเมอร์เมด เรียบหรูแต่เซ็กซี่กำลังดี พร้อมเวลบาง ๆ ให้ลุคดูแกลมมากขึ้นตอนเปิดตัวเข้างานค่ะ
เมคอัพก็จัดเต็ม 3 ลุค 3 สไตล์ ตั้งแต่ Chinese glam, Natural soft, Glamorous party ทุกลุคต่างกัน แต่เข้ากับบรรยากาศของแต่ละพิธีได้ดี ทรงผมเลือกเก็บรวบ จะได้ไม่ร้อนและไม่ยุ่งเหยิงด้วยค่ะ
จัดการเวลาสุดเป๊ะ พิธีการครบ เติมความประทับใจด้วยอาหารที่แขกชมไม่หยุด
พิธีหมั้นและยกน้ำชา เรามีเวลาจำกัดแค่ 9-11 โมง เพราะเดี๋ยวต้องเปลี่ยนชุดและไปโบสถ์ ดังนั้นพิธีจะเน้นรวบรัด แต่ครบทุกพิธีการค่ะ เริ่มจากแห่ขันหมากมาที่ทางเดิน เจ้าสาวรออยู่ในสวน ส่วนผู้ใหญ่อยู่ในห้องบอลรูมเลย ซึ่งที่นี่โลเคชั่นตอบโจทย์อยู่แล้ว พอเข้ามาในห้องก็สู่ขอ ปูเรียงสินสอดของจีน ขันหมากจีน ต่อด้วยสวมแหวนหมั้น ทานขนมอี๋ ยกน้ำชา ช่วงเช้าเราจ้างรันคิวเพิ่ม 1 คน เพื่อช่วยจัดการเวลาค่ะ
พิธีโบสถ์เสร็จประมาณไม่เกินบ่ายสาม ค่อนข้างเร็ว จากนั้นก็มาเตรียมตัวงานเย็นต่อเลย พองานเริ่ม แขกจะทยอยมาถ่ายรูปกันที่แบ็คดรอปก่อน ระหว่างนั้นก็มีโฟโต้บูธ แขกจะได้ไม่เบื่อ
ช่วงเปิดตัวเราเดินคู่กันเข้ามาและขึ้นไปบนเวที ช่วงนี้จะเน้นสปีช มีผู้ใหญ่ฝั่งละ 1 ท่าน และเพื่อนฝั่งละ 1 ท่าน มากล่าวอวยพร เสร็จแล้วก็ทานอาหาร ตัดเค้ก รินแชมเปญ ต่อด้วยโยนดอกไม้ แล้วก็ปาร์ตี้นิดหน่อยค่ะ
สิ่งที่แขกพูดถึงมากที่สุดคือ “อาหาร” กุ้งเลือกเป็น บุฟเฟ่ต์และเพิ่มซุ้มอาหาร มีเมนูเด็ดอย่างข้าวซอย, กระเพาะปลา, ไก่ผัดเม็ดมะม่วง, สปาเกตตี้ ซึ่งแขกบอกหมดเกลี้ยงอย่างไว ดังนั้นใครจะมาจัดงานที่นี่ กุ้งแนะนำเมนูเหล่านี้เลยค่ะ
มีเวลาน้อย แต่ได้งานเป๊ะ เพราะทีมงานที่ใช่!
เป็นเวลา 2 เดือน ที่เราทุ่มเทเตรียมงานทั้งหมดเพื่อวันเดียว ซึ่งถ้าไม่ได้พาร์ทเนอร์และโรงแรมที่ดี คงไม่สามารถทำได้เลยค่ะ ยิ่งในวันงาน ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนรันงาน ช่างหน้า ช่างผม ช่างภาพ ทุกคนรู้ว่างานเราเร่ง อาจจะต้องรวบรัด แต่ก็ต้องลงดีเทล เพราะกุ้งเป็นเจ้าสาวที่เป๊ะระดับนึง ลัดได้ แต่ผลออกมาต้องเท่าเดิมนะ ดังนั้นต้องชมเลยว่าทีมงาน Professional มาก ๆ ค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว
ถ้ามีเวลาและบัดเจ็ท ควรจ้างออแกไนซ์มืออาชีพ : การจ้างออแกไนซ์จะช่วยจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ทันเวลา แต่หากไม่มีบัดเจ็ท สามารถเลือกจ้างแค่รันคิว
เลือกคนที่มีประสบการณ์มาช่วยเป็นแม่งาน : บ่าวสาวไม่ควรดูงานทุกอย่างเองทั้งหมด แต่ควรหาเพื่อนสนิท หรือคนที่มีประสบการณ์เรื่องงานแต่งมาเป็นแม่งาน เพื่อดู overall แทนเราได้
อย่าคาดหวังว่างานจะเพอร์เฟ็กต์ : งานแต่งไม่จำเป็นต้องเนี้ยบทุกดีเทล แต่ควรเป็นงานที่บ่าวสาวและแขกมีความสุข มองข้ามสิ่งที่ขาดตกบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปบ้างก็ได้
Photographer: FenderFoto