รีวิวงานแต่งกลิ่นอายดิสนีย์ ผสานพิธีจีน-คริสต์แสนอบอุ่น จบได้ในครึ่งวัน @Le Meridien Bangkok

Le Méridien Bangkok โรงแรมที่มีห้องจัดเลี้ยงให้ฟีลอบอุ่น ได้ความเป็นส่วนตัว แถมเดินทางสะดวกสุด ๆ

       เนื่องจากงานแต่งของเบลล์กับเบสท์ (เจ้าบ่าว) จะมีพิธีคริสต์อยู่ด้วย เบลล์จึงตั้งใจอยากจัดงานแต่งเล็ก ๆ อยากให้มีบรรยากาศอบอุ่น มีแต่ครอบครัว ญาติ ๆ และคนที่พวกเรารักอยู่ในงานแต่ง ดังนั้น พวกเราเลยมองหาสถานที่ที่มีขนาดกำลังพอดีกับจำนวนแขกหรือที่คิดไว้ในตอนแรกประมาณ 150 ท่าน

       พวกเราไปดูสถานที่กันมาเยอะมากก็ยังไม่ถูกใจ ติด Condition หลายอย่าง เช่น ความสะดวกในการเดินทาง ความเป็นส่วนตัว หรืออย่างบางที่ที่มีห้องขนาดใหญ่มาก แต่ต่อให้สามารถกั้น Partition ได้ เราก็ยังรู้สึกว่าพื้นที่ดูใหญ่อยู่ดี ด้วยความที่เราเคยทำงานคลุกคลีอยู่กับเครือ Marriott ทำให้ไว้วางใจเลือกที่ Le Méridien Bangkok (โรงแรมเลอเมอริเดียน กรุงเทพ) เพราะโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางได้ทั้ง BTS และ MRT ที่สำคัญ ให้พื้นที่จัดงานแต่งทั้งชั้น และมีห้องจัดเลี้ยงขนาดกำลังพอดีเหมาะกับงานแต่งของเราเลยค่ะ

งานแต่งธีมดิสนีย์กับจอ LED ที่เสกทุกพิธีให้น่าประทับใจ

       ตอนแรกไม่ได้คิดคอนเซ็ปต์อะไรไว้เป็นพิเศษเลยค่ะ เราก็ไปดูเทรนด์พบว่าช่วงนั้นธีมสีขาว-เขียวกำลังมา แต่เบลล์อยากใส่ความความชอบของเราลงไปเลยเลือกใช้ธีมดิสนีย์ โดยมีธีมสีเป็นสีชมพู สีม่วง สีขาว สีเขียว แล้วเราก็ไปหา Reference ทั้งจาก Pinterest และเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น sabuywedding.com ดูว่าบ่าวสาวที่จัดงานแต่งธีมนี้ทำยังไงกันบ้าง

       บริเวณ Backdrop เลือกใช้ดอกไม้โทนสีชมพูและสีม่วงเป็นหลัก ตกแต่งให้ดูไม่มากหรือน้อยจนเกินไป คิดว่าเมื่อเพื่อนเจ้าบ่าวที่ใส่ชุดสีครีมและเพื่อนเจ้าสาวที่ใส่ชุดสีเขียวมาถ่ายรูปหน้า Backdrop สีสันก็จะดูน่ารักเข้ากันดี ส่วนบริเวณ Gallery ตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสวนดอกไม้คล้ายในการ์ตูนดิสนีย์ อีกทั้งยังมี Photo Booth ของ Yan Ying Yao ที่อยากแนะนำทุกคน เพราะเขาส่งงานตรงเวลา เราสามารถครีเอทรูปแบบเอง มีกรอบให้เลือกหลากหลาย และใส่ตัวการ์ตูนที่ชอบลงไปในรูปได้ด้วย

       พระเอกของงานต้องยกให้จอ LED ที่ช่วยให้เปลี่ยนบรรยากาศได้ตามพิธีการ เช่น ตอนพิธีคริสต์ใช้ฉากหลังรูปโบสถ์ก็จะเหมาะสมกับรูปแบบงาน หรือตอนตัดเค้กใช้ฉากหลังรูปปราสาทดิสนีย์โทนสีน้ำเงินออกม่วง ๆ เหมือนหลุดไปในเวทมนตร์ ทำให้ธีมงานแต่งออกมาสมบูรณ์เลยค่ะ

       การ์ด ของชำร่วย ของรับไหว้ พวกเราตั้งใจเลือกเองทุกชิ้น อยากได้ของที่มีความหมาย สามารถใช้งานได้จริง หรือเห็นแล้วทำให้นึกถึงพวกเราทันที อย่างการ์ดที่เป็นรูปเราสองคน ดีไซน์ดูเรียบง่ายเข้ากับรูปถ่ายของพวกเรา, ของชำร่วยเป็นช้อนส้อมที่มีความหมายถึงการใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นคู่กันไปตลอด, ของรับไหว้เลือกน้ำหอม Karmakamet เป็นตัวแทนของความรัก ชีวิตรักได้หอมหวาน และญาติผู้ใหญ่สามารถนำไปใช้งานได้ด้วยค่ะ

พิธียกน้ำชาและพิธีคริสต์ รวมสองวัฒนธรรมแสนอบอุ่นในวันสำคัญ

       เบลล์จัดพิธีแต่งงาน 2 รูปแบบ ใช้เวลาในช่วงเช้าและเลี้ยงฉลองในช่วงบ่าย ประมาณครึ่งวันก็เสร็จค่ะ งานเริ่มเวลาประมาณ 6.30 น. เป็นพิธียกน้ำชาที่บริเวณ Backdrop โถงใหญ่ด้านนอก พิธีเริ่มจากทางฝ่ายเจ้าบ่าวเดินทางมารับตัวเจ้าสาวไปยังพิธีหมั้น ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ทำการพูดคุยกัน จากนั้นพวกเราก็สวมแหวน แล้วเข้าสู่พิธียกน้ำชา รับไหว้ผู้ใหญ่ และป้อนไข่ให้กัน ไม่คิดว่าการกินไข่ทั้งลูกให้หมดในคำเดียวจะยากขนาดนี้นะคะ (หัวเราะ)

       พิธีทางศาสนาคริสต์เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00-11.00 น. จัดในห้อง The Atelier Hall ใช้ฉากหลังเป็นไม้กางเขนและเปลี่ยนบรรยากาศในห้องให้คล้ายงานแต่งในโบสถ์ด้วยจอ LED เป็นพิธีแต่งงานที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น บรรยากาศเป็นไปตามภาพงานแต่งที่เราวาดฝันไว้ อยากให้ทุกคนเห็นว่างานแต่งพิธีคริสต์ก็สามารถจัดในโรงแรมให้ดูอบอุ่นและราบรื่นได้เหมือนกัน

       ด้วยความที่เราเป็นสมาชิกของโบสถ์อยู่แล้ว อาจารย์ที่โบสถ์จึงมาเป็นผู้ประกอบพิธีให้กับคู่ของเรา เริ่มจากพิธีจุดเทียน ขบวนเจ้าสาวเข้าสู่สถานที่ประกอบพิธีโดยมีคุณพ่อพาเบลล์เข้าไปส่งตัวให้กับเจ้าบ่าว จากนั้นอาจารย์ก็จะให้โอวาท อ่านพระคัมภีร์เพื่อให้บ่าวสาวนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตคู่ แล้วเข้าสู่พิธีกล่าวคำปฏิญาณและแลกแหวนกัน อ้อ! งานแต่งของเรามีพี่แอน-นันทนา มาร้องเพลงให้ด้วยนะคะ 

       การแต่งงานพิธีคริสต์ ผู้ที่มาเป็นพยานต้องผ่านการเทรนด์มาก่อน เบลล์ให้คุณพ่อคุณแม่เป็นพยานให้ มีการลงนามแล้วมอบใบประกาศสูติบัตรของพิธีคริสต์ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าพวกเราจะมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในการดำเนินชีวิตคู่นั่นเองค่ะ

งานเลี้ยงฉลองที่มีกิมมิกเป็นน้องแคร์แบร์ และเค้กชูครีมที่เข้ากับฉากดิสนีย์

       หลังจากเสร็จพิธีคริสต์ พวกเราไปเปลี่ยนชุด ระหว่างนั้นทางโรงแรมได้ใช้เวลาเทิร์นโต๊ะไวมาก ประมาณ 10-15 นาที ก็สามารถเนรมิตให้กลายเป็นห้องจัดงานเลี้ยงฉลองแบบโต๊ะจีน พร้อมเสิร์ฟอาหารจีน เช่น ซุปปู เป็ดปักกิ่ง ฯลฯ ถูกใจแขกผู้ใหญ่มาก ๆ และด้วยความที่มีแขกผู้ใหญ่เยอะ กลัวพวกท่านจะเหนื่อย จึงไม่เน้นลำดับพิธีอะไรมากในช่วงนี้ อยากให้งานโฟลว์ สามารถจบงานภายใน 14.00 น.

       กิมมิกของงานเลี้ยงฉลองอย่างแรกคือ เค้กจากทางโรงแรม ไม่ได้เป็นเค้กแต่งงานทั่วไปที่เป็นชั้น ๆ แต่ของ Le Méridien Bangkok มาในรูปแบบชูครีมที่มีสีสันเข้ากับฉากหลัง เค้กดูวัยรุ่นดีค่ะ เรายังมีการเล่นเกม โดยให้เพื่อน ๆ ตอบคำถามที่เกี่ยวกับบ่าวสาว ว่ารู้จักพวกเรามากแค่ไหน พร้อมรับของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งในระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ จอ LED ก็ได้เปลี่ยนรูปฉากหลังช่วยสร้างบรรยากาศล้อไปกับกิจกรรมบนเวทีค่ะ

       อีกกิมมิกที่ส่วนตัวรู้สึกชอบเป็นพิเศษคือ ตอนโยนดอกไม้ แต่เบลล์เปลี่ยนมาใช้เป็นการโยนตุ๊กตาแคร์แบร์ (Care Bears) เพราะตอนแรกก็แอบกังวลว่าบางคนอาจเขินไม่กล้าออกมารับช่อดอกไม้เจ้าสาว จึงเลือกเป็นตุ๊กตาแคร์แบร์ที่ชื่อว่า Power of Love, Power of Happy ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักและความสุข มีความหมายดี ดูแล้วน่ารักสามารถเอากลับบ้านไปกอดได้ด้วย น้องแคร์แบร์น่าจะช่วยเรียกแขกให้อยากออกมารับไปดูแลค่ะ

       และก็เป็นไปตามคาด คนออกมาให้ความร่วมมือเยอะมาก ทั้งเพื่อนเจ้าสาวรวมไปถึงเด็ก ๆ มายืนรออยู่ข้างหน้า ตะโกนอยากได้แคร์แบร์กันยกใหญ่ สุดท้ายเด็ก ๆ ก็ได้แคร์แบร์ไปครอง เบลล์ดีใจมากที่ทุกคนดูสนุกสนานและแฮปปี้กัน มองจากเวทีลงไปแล้วเห็นทุกคนที่เรารักอยู่ในงานนี้ก็รู้สึกอบอุ่นใจ เป็นวันที่เรามีความสุขมากเลยค่ะ

จัดงานแต่ง 2 พิธี พร้อมเลี้ยงฉลองในครึ่งวันก็ไม่หวั่น เพราะมีทีมงานมืออาชีพ 

       ก่อนอื่นอยากขอบคุณทางทีม Organizer ที่ช่วยรักษาเวลาได้เป๊ะมาก ทำให้งานของเราออกมาโฟลว์ แขกผู้ใหญ่ไม่ต้องรอนาน ที่สำคัญ ขอขอบคุณทีมเซลล์ของ Le Méridien Bangkok ที่พยายามทำให้งานแต่งของเราออกมาได้ตามความต้องการ จากตอนแรกที่เรากะจำนวนแขกไว้ 150 ท่าน แต่พอวันแต่งงานแขกมาจริง 170 ท่าน ทางทีมงานก็จัดโต๊ะเพิ่มให้อย่างรวดเร็ว ช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในงานให้ด้วยค่ะ ประทับใจมาก 

       ส่วนเรื่องอาหาร ทางทีมงานของโรงแรมดูแลและบริการอย่างดีตั้งแต่วันที่ไปทำ Food tasting จนกระทั่งในวันงาน เห็นทุกโต๊ะรับประทานอาหารกันหมด บรรดาแขกโดยเฉพาะฝั่งครอบครัวเจ้าบ่าวชมเรื่องอาหารมาว่า อร่อยมาก รสชาติเหมือนอาหารจีนต้นตำรับ ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยค่ะ

คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว

บ่าวสาวควรคุยกันทุกเรื่องที่เกี่ยวกับงานแต่ง ไม่ว่าจะเรื่องรูปแบบงาน ความต้องการต่าง ๆ ตลอดจนการตั้ง Budget ซึ่งอาจเป็นเรื่องปกติที่ Budget อาจเกินจากที่ตั้งไว้ ต้องช่วยกันบริหารให้ดี คุยกันให้เคลียร์ตั้งแต่แรก สุดท้ายในวันแต่งงานเราก็จะสามารถปล่อยใจให้มีความสุขไปกับวันสำคัญได้ค่ะ

หากจัดงานแต่งที่มีหลายพิธีแต่มีเวลาน้อย ให้พยายามรวบรัดขั้นตอน ตัดบางกิจกรรมที่ไม่จำเป็นออก หรือช่วงเลี้ยงฉลอง อาจไม่ต้องมีพิธีที่จริงจังมาก ปล่อยโฟลว์ให้เหมือนทุกคนมาเล่นเกมแล้วกินข้าวร่วมกัน จะได้ฟีลอบอุ่นอีกด้วย

เลือกสถานที่ที่มีขนาดเหมาะสมกับจำนวนแขก ช่วยให้บรรยากาศยิ่งดูอบอุ่น แขกรู้สึกเป็นกันเอง หากเป็นไปได้แนะนำให้เลือกสถานที่จัดงานที่เป็นส่วนตัว อย่าง Le Méridien Bangkok ทำให้งานออกมาได้อย่างราบรื่น สะดวกทั้งแขกและทีมงานเลยค่ะ

Photographer : Gamour Studio