รีวิวงานแต่งสวยสไตล์โมเดิร์น อบอุ่นด้วยธีมสี Champagne in Autumn @ Chatrium Hotel Riverside Bangkok

Chatrium Hotel Riverside Bangkok ห้องบอลรูมเด่นด้วยแชนเดอร์เลียคริสตัลสุดหรู และเมนูติ่มซำอาหารจีนขึ้นชื่อ

       ลิตเติ้ล (เจ้าสาว) กับแอ็ก (เจ้าบ่าว) เลือกจัดงานแต่งงานที่ Chatrium Hotel Riverside Bangkok (โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ) เพราะเราได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการมาพักผ่อนและรับประทานอาหารที่นี่อยู่บ่อย ๆ ค่ะ ประกอบกับชอบบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้ว ทำให้เราตัดสินเลือกที่นี่ นอกจากนี้ โรงแรมยังขึ้นชื่อเรื่องเมนูอาหารบุฟเฟ่ต์ ติ่มซำและอาหารจีนด้วยค่ะ

งานหมั้นสวย อบอุ่น โปร่งสบายด้วยแสงธรรมชาติ

       สำหรับพิธีหมั้น เราจัดงานขนาดเล็กโดยเชิญแค่เพื่อนสนิทและครอบครัวประมาณ 80 ท่าน เราเลือกห้องอาหาร Silver Wave ชั้น 36 ของโรงแรมที่สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากมุมสูง ได้รับแสงเดย์ไลท์ผ่านกระจกทำให้ภายในห้องดูโปร่งสบาย และ ตกแต่งฉากหลังเวทีที่ใช้ทำพิธีเป็นฉากสีขาว เติมความสดใสด้วยสีส้มและสีแชมเปญ เพิ่มลูกเล่นด้วยการตกแต่งดอกไม้เป็นวงกลม และติดโลโก้ที่ออกแบบเองโดยใช้แค่ตัวอักษรแรกของชื่อเล่นบ่าวสาวค่ะ

       ส่วนพิธีการ เราเริ่มด้วยพิธีสงฆ์ ก่อนที่ทางเจ้าบ่าวจะลงไปตั้งขบวนขันหมากที่ลานท่าเรือชั้นล็อบบี้ ระหว่างขบวนเจ้าบ่าวเดินขึ้นไปรับตัวลิตเติ้ล ต้องผ่านด่านประตูเงินประตูทอง ก่อนไปเจรจาสู่ขอกับญาติผู้ใหญ่ค่ะ และถึงมารับตัวลิตเติ้ลเข้าไปทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๋และรดน้ำสังข์ ซึ่งหลังจบพิธี เราจะมีช่วงเวลาให้แขกรับประทานอาหาร ส่วนเราสองคนจะเข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อทำพิธียกน้ำชาและส่งตัวค่ะ

พิธีการอบอวลด้วยธีม Champagne in Autumn

       เราตกแต่งงานในธีม Champagne in Autumn โดยใช้สีแชมเปญมามิกซ์แอนด์แมทช์กับสีน้ำตาลส้มทำให้บรรยากาศในงานดูอบอุ่นมากเลยค่ะ ส่วนแบ็คดรอปถ่ายภาพ เราออกแบบให้มีความเป็นเคิร์ฟโค้ง ล้อไปกับแปลนห้องบอลรูมที่มีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม ประดับดอกไม้เพื่อเติมความสวยงาม บริเวณใกล้กันจะเป็นโซนภาพแกลเลอรี่บ่าวสาว ที่ตั้งระหว่างทางเดินเข้าสู่ห้องจัดงาน และมีซุ้มโฟโต้บูทไว้ในห้องรับรอง ซึ่งเป็นอีกซุ้มที่แขกชอบกันมาก ช่างภาพที่มาก็เอนเตอร์เทนเก่งด้วยค่ะ

       ด้านในห้องจัดเลี้ยง เราแทบไม่ได้ตกแต่งอะไรเพิ่มมากค่ะ เพราะโครงสร้างและการตกแต่งของห้องนี้ทำไว้ดีอยู่แล้ว เราจึงใช้เพียงโครงเหล็กพ่นสีแชมเปญโกลด์ วางตั้งข้างจอ LED ที่ฉายกราฟิกที่เปลี่ยนไปตามพิธีการ

       ในส่วนของชำร่วย เราเลือกชาอู่หลงจากเมืองจีนที่เราชอบดื่มกันทั้งคู่ มีทั้งประโยชน์และความหมายดี ๆ ซ่อนอยู่มากมายเลยค่ะ เพราะชาที่ดีนั้นต้องผ่านกรรมวิธีที่เต็มไปด้วย ความรัก ความใส่ใจ พิถีพิถัน การที่เราเลือกสิ่งนี้ให้แขกก็เหมือนความตั้งใจที่อยากคัดสรรสิ่งดี ๆ ให้แขกเช่นกันค่ะ

       สำหรับพิธีฉลอง เราเริ่มต้นด้วยการเปิดวีดีโอพรีเซนเทชั่น ที่เล่าเรื่องราวความรักตั้งแต่เจอกันวันแรกถึงวันที่แต่งงาน ก่อนเปิดเพลงเมดเล่ย์เคล้าคลอบรรยากาศระหว่างที่เราเดินขึ้นเวทีค่ะ พิธีกรจะเชิญประธานกล่าวคำอวยพร สัมภาษณ์บ่าวสาว พิธีตัดเค้ก ปิดท้ายด้วยการโยนดอกไม้ ซึ่งพิธีนี้เราจะโยนให้ทั้งเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวเลยค่ะ คนที่ได้รับช่อดอกไม้ก็จะได้ตุ๊กตาน้องหมาไปด้วย ซึ่งเป็นตัวแทนของเราที่เป็นสัตวแพทย์ค่ะ

       ครอบครัวของเราให้ความสำคัญ เรื่องของการจัดเลี้ยงอาหารมาก เราจึงคัดสรรอาหารที่รสชาติดี มีคุณภาพเพื่อให้แขกประทับใจ โดยเราเลือกเมนูโต๊ะจีน และคัดเมนูที่มีชื่อเสียงของทางโรงแรมมาด้วยค่ะ เช่น เมนูหมูแดง เป็นต้น

บ่าวสาวเปรมปรีด์ งานดีมีแต่เรื่องประทับใจ

       เราปลื้มใจมากที่งานแต่งสำเร็จลุล่วง เราต้องขอขอบคุณทีมงานทุกฝ่ายจริง ๆ ค่ะที่มีความเป็นมืออาชีพ ทุ่มเทและใส่ใจทุกรายละเอียดในงานแต่งไปพร้อมกับเรา

       ส่วนที่ประทับใจที่สุด คือ คุณอ้อเซลล์ของที่นี่ ที่ช่วยดูแลคู่เราอย่างดี ประสานงานในเรื่องต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้  พนักงานตอนรับของโรงแรมยังคอยช่วยถามไถ่แขกที่มาร่วมงานตั้งแต่ทางเข้าเลยว่ามารวมงานของเราใช่ไหม? ลิตเติ้ลมองว่าดีเทลเล็ก ๆ เหล่านี้ ช่วยสร้างความประทับใจให้คนที่พบเจอได้ดีมากค่ะ

คำแนะนำบ่าว-สาว

เตรียมงานอย่างน้อย 6 เดือน : ทุกดีเทลในงานแต่งล้วนต้องใช้เวลา เช่น สถานที่จัดงานแต่ง คิวเต็มเร็วมาก ๆ หากชะล่าใจ การเลือกซัพพลายเออร์ในเวลาที่กระชั้นชิด จะทำให้เราได้ในสิ่งที่ไม่ชอบหรือจำเป็นต้องเลือก

เลือกสไตล์การแต่งหน้าให้เข้ากับตัวเอง : บ่าวสาวควรเลือกช่างแต่งหน้าที่เหมาะสมกับสไตล์ของตัวเองและช่วยเสริมสไตล์เราให้ดูโดดเด่นมากขึ้น

ดูดีจากภายในสู่ภายนอกด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกาย และดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น อีกทั้ง ยังช่วยให้บ่าวสาวดูดี มีออร่าจากภายในสู่ภายนอก

ควรคุยให้เข้าใจกันทุกฝ่าย : วงการเตรียมงาน ทางครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่าย และบ่าวสาวอาจมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง สิ่งสำคัญ คือ ควรพูดคุย ปรึกษากัน และหาจุดร่วมกันตรงกลางเพื่อความเข้าใจ และสบายใจของทุกฝ่าย

เชิญแขกล่วงหน้าอย่างน้อย 3 สัปดาห์ : การเชิญเเขกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ควรเช็คให้ละเอียดเพื่อป้องกันการตกหล่นไม่ว่าจะเป็นเเขกฝั่งคุณพ่อ คุณแม่ แขกฝั่งบ่าวสาว ที่สำคัญควรเชิญแขกล่วงหน้าอย่างน้อย 3 สัปดาห์ เพื่อมีระยะเวลาให้แขกได้เตรียมตัวด้วย