Eastin Grand Hotel Sathorn ฺห้องบอลรูมเพดานสูง และไฮไลท์มุมระเบียงวิวตึกมหานคร
พัดกับวอร์ม (เจ้าสาว) เลือกโรงแรมโดยคำนึงถึงโลเคชั่นเป็นหลัก อยากได้ติด BTS เพื่อให้แขกเดินทางสะดวกสบาย ขณะเดียวกันขนาดห้องบอลรูมก็ต้องรองรับแขกได้ราว 300 ท่าน แบบไม่รู้สึกคับแคบ หากเพดานสูงก็ยิ่งดี จะได้รู้สึกโปร่ง เรามีลิสต์ไว้ 3-4 ที่ แต่พอไปดูสถานที่จริงแล้วชอบ Eastin Grand Hotel Sathorn (อีสติน แกรนด์ สาทร) ที่สุด เพราะตรงตามเช็กลิสต์ครบถ้วนครับ
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งแรกที่ดึงดูดให้เราเข้ามาดูสถานที่จริง คือภาพมุมระเบียงของโรงแรมที่อยู่ชั้นจัดงานครับ แสงสวย วิวดี มองเห็นตึกมหานครได้ด้วย ทำให้ได้มุมภาพถ่ายหลากหลายที่ไม่ได้มีแค่อินดอร์เท่านั้นครับ
จัดงานให้หรูละมุน ด้วยธีมสีเอิร์ธโทน ม่วง และโอลด์โรส
เราเลือกใช้ธีมสีเดียวกันทั้งงานหมั้นและงานเลี้ยง คือ สีเอิร์ธโทน อย่างน้ำตาลและเบจ เพราะเป็นสีที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู ดูดี แล้วยังเพิ่มสีม่วงกับสีโอลด์โรสเข้าไปด้วย เพราะอยากให้งานมีความหวานขึ้นอีกนิดหน่อยครับ ซึ่งการตกแต่งงานทั้งหมด เราเลือกทีมตกแต่งที่เขามีเทมเพลตมาเบื้องต้นแล้ว จึงช่วยลดเวลาในการคิดไอเดียใหม่ไปได้เยอะ เราแค่ปรับองค์ประกอบการจัดวางดอกไม้ในฉาก ธีมสี และดีไซน์โลโก้กันเอง จากนั้นก็ส่งไปให้เขาขึ้นแบบครับ
โถงรับรองของโรงแรมนี้มีขนาดกว้างกำลังดี จึงทำให้วางทุกอย่างได้อย่างลงตัว ถ้าแขกออกมาจากลิฟต์จะเห็นโต๊ะลงทะเบียน มุมโฟโต้บูธ ภาพบ่าวสาวที่ตั้งขนาบสองข้างทาง และด้านในสุดเป็นแบ็กดรอปถ่ายภาพพื้นสีขาว ตกแต่งดอกไม้พุ่มทั้ง 2 ข้าง และตรงกลางฉากเว้าลึกลงไปให้ดูมีมิติครับ
ส่วนในห้องสุรศักดิ์บอลรูม ฉากบนเวทีเลือกใช้สีน้ำตาลเบจ เพราะอยากให้แตกต่างจากแบ็กดรอปด้านนอก และคิดว่าเป็นสีที่เหมาะกับงานกลางคืน ช่วยทำให้ตัวบ่าวสาวดูโดดเด่นขึ้น แถมชุดเจ้าสาวที่เป็นสีขาวก็จะไม่กลืนไปกับพื้นหลังด้วยครับ
เลย์เอาท์จัดวางในห้อง เราได้คุณแป้ง เซลล์ของโรงแรมมาช่วยแนะนำครับ อย่างห้องบอลรูมที่แปลนเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เราก็จะแบ่งสัดส่วนของแขกผู้ใหญ่กับวัยรุ่นคนละฝั่งกัน แขก VIP และผู้ใหญ่จะนั่งโต๊ะกลมสำหรับ 10 ท่าน จัดไว้โซนหน้าเวที ส่วนแขกเพื่อน ๆ จะเป็นโต๊ะค็อกเทล พร้อมสำรองโต๊ะกลมขนาด 6 ท่านไว้อยู่ฝั่ง Band Stage แม้เพื่อน ๆ จะอยู่ไกลจากเวทีหน่อย แต่เขาสามารถเอ็นจอยไปกับวงดนตรีและอาหารที่อยู่ถัดไปได้ด้วยครับ
พิธีหมั้นบ่าย-เลี้ยงเย็น เรียบง่าย แขกได้เพลิดเพลินกับอาหาร
เราจัดงานหมั้นแบบจีนในช่วงบ่าย พิธีเน้นเรียบง่าย อย่างแห่ขันหมากก็เพียงตั้งขบวนถือของไปเจรจาสู่ขอกับญาติผู้ใหญ่ เรียบร้อยแล้วค่อยออกไปรับตัวเจ้าสาวที่ต้องผ่านด่านกั้นประตู แต่เป็นการเล่นเกมกันพอสนุก ๆ ไม่ถึงกับจริงจัง แล้วก็กลับมามอบสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๋ และยกน้ำชา เสร็จแล้วขึ้นไปส่งตัวที่ห้องพักครับ
ระหว่างที่บ่าวสาวไปเปลี่ยนชุดสำหรับงานฉลอง แขกจะมูฟไปห้องรับรองชั้น 12 เพื่อทานอาหารกันก่อน เช่น ข้าวต้มปลา, ไข่ลวก และคอฟฟี่เบรกต่าง ๆ เมื่อใกล้กำหนดการ เราเปิดให้แขกลงทะเบียนรับของชำร่วยเป็น Card holder โดยเลือกสีตรงกับ Dress code ของแขก จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาแห่งการถ่ายรูป ทั้งตรงแบ็คดรอปและโฟโต้บูธ ระหว่างนี้จะมีวงทรีโอมาบรรเลงเพลงเพื่อสร้างความเพลิดเพลินด้วยครับ
เมื่อเปิดคลิปวีดิโอพรีเวดดิ้งจบแล้ว เราเปิดตัวเดินขึ้นเวที และได้รับเกียรติจากประธาน 3 ท่านขึ้นมากล่าวคำอวยพร ต่อด้วยเราพูดคุยกันเล็กน้อย ไปตัดเค้ก มอบเค้กให้แขกผู้ใหญ่ และโยนดอกไม้ก็เสร็จสมบูรณ์ครับ เราพยายามไม่ให้คิวยืดเยื้อเกินไป เบ็ดเสร็จใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครับ
ช่วงเวลาที่เหลือก็ให้แขกเพลิดเพลินกับอาหารกัน เพราะเรามีเมนูค่อนข้างหลากหลาย จัดเลี้ยงทั้งแบบค็อกเทล และ Food Stall เช่น เมนูข้าวมันไก่ ข้าวหมูกรอบ บะหมี่เกี๊ยวกุ้งฮ่องกง แซลมอนอบ และพาสต้าปรุงสด 3 ซอส แขกชมอาหารเยอะมากครับ ไม่ใช่แค่รสชาติดี แต่ปริมาณอาหารต่อ 1 พอร์ชั่น เยอะกว่าที่คิดไว้อีก จึงมั่นใจได้ว่า แขกอิ่มแน่นอนครับ
รวมโมเมนต์ประทับใจ ทั้งอาหาร ทีมงาน และการตกแต่ง
เราประทับใจทุกอย่างเลยครับ อย่างแรกคงเป็นทีมงานทุกทีม ส่วนใหญ่ได้จากการบอกต่อจากพี่สาวของวอร์มที่แต่งงานมาก่อน ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะเทงานไหม ทุกทีมทำงานกันดีมาก ทั้งการตกแต่งที่ออกมาสวยกว่าที่คิดไว้ ดูดีเกินราคาไปมากครับ และชอบวงดนตรีที่ร้องและเล่นเพลงตามที่เรารีเควสต์ได้ แม้เราจะไม่ได้เลือกเพลงท็อปลิสต์ยอดนิยมในงานแต่งงานก็ตาม
อีกความประทับใจหลัก ๆ คือ โรงแรม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้งานผ่านไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะเรื่องอาหาร วอร์มปลื้มกับการจัดวางดิสเพลย์และตกแต่งเมนูค็อกเทลมาก เขาจัดเรียงอาหารออกมาสวยงาม ชวนทานทุกเมนูเลยครับ
ส่วนทีมงานมีการบริการ ช่วยเหลือ และประสานงาน รวมถึงแก้ไขปัญหาหน้างานได้ดี อย่างเรานึกได้ว่าลืมเอาเปเปอร์ชู๊ตมาก่อนเปิดตัวเพียงหนึ่งชั่วโมง จึงรีบปรึกษาโรงแรม ซึ่งทางเซลล์และทีมงานก็แก้ไขโดยหาของมาทดแทนเป็นกลีบกุหลาบและกรวยใส่กลีบดอกไม้ได้ทันเวลา ทำให้เราสองคนประทับใจที่แม้เจอปัญหาในช่วงเวลากระชั้นชิด แต่เขายังสามารถทำให้หน้างานเราออกมาดูราบรื่นมาก ๆ ครับ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
ถ้าไม่มีเวลาหาข้อมูลมากพอ ควรใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ : หากบ่าวสาวไม่มีคนใกล้ชิดจัดงานแต่งมาก่อน หรือยุ่งจนไม่มีเวลา การใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์จะช่วยตอบโจทย์ได้ดี เพราะการจัดงานแต่งต้องมีเวลาเตรียมตัวมากพอ ที่จะเฟ้นหาทีมงานมืออาชีพที่ถูกใจ ไปจนถึงขั้นตอนเตรียมงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้เวลาในการคุยด้วย
ดูแค่ภาพไม่พอ ต้องไปดูสถานที่จริง : ไม่ว่าบ่าวสาวจะยุ่งแค่ไหนก็ควรหาเวลาไปดูสถานที่จัดงานแต่งจริง ๆ เพราะบางทีรูปภาพกับของจริงอาจต่างกัน การไปดูจะทำให้รู้ว่าเราชอบมากน้อยแค่ไหน ทั้งยังได้เจอกับทีมงานหรือเซลล์ของโรงแรมที่ดีลงานกัน จะได้รู้ด้วยว่าคลิกกันไหม
จ้างรันคิวมืออาชีพดีกว่า : เพราะจะช่วยให้บ่าวสาวคลายความกังวลใจได้ และทีมรันคิวบางเจ้า ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องลำดับงานเท่านั้น แต่ยังช่วยเตือนเรื่องเช็กลิสต์การจัดเตรียมข้าวของต่าง ๆ ในวันแต่งงาน ทำให้บ่าวสาวที่หลงลืมหรือตกหล่นบางอย่างไป จัดหามาไว้ได้ทันอีกด้วย
ก่อนเลือกโฟโต้บูธ อย่าลืมคำนึงถึงช็อตถ่ายรูป : หากใครอยากมีโฟโต้บูธในงานแต่ง ต้องคุยดีเทลกับทีมงานให้ละเอียด โดยเฉพาะการเลือกว่าภาพ 1 ใบจะถ่ายกี่ช็อต เพราะมีผลต่อเวลา ถ้ามีหลายช็อตเกินไป เช่น 6 ช็อต จะยิ่งเสียเวลามาก เพราะต้องถ่ายให้ครบถึงจะปริ้นต์ภาพออกมาได้ เลือกไม่ให้เกิน 3 ช็อตกำลังดี แขกที่ต่อคิวอยู่จะได้ไม่รู้สึกว่ารอนานไป
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ!
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าสาว SabuyWedding
หรือเลือกดูโปรโมชั่นตามประเภทร้าน
พบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ! (1 รายการ)