รีวิวงานแต่งธีม Lily of the Valley อุ่นไอความรักในทุ่งดอกไม้ by Mahassajan Wedding

       อุ้ยและปูม (เจ้าบ่าว) อยากจัดงานแต่งแบบเรียบง่าย มีแต่คนรู้จัก ผู้ใหญ่เดินทางมาสะดวก กระชับเรื่องเวลา จึงเลือกจัดพิธีหมั้นเช้า-ฉลองเที่ยงค่ะ ซึ่งเราคุยกันว่าควรมีแพลนเนอร์ จะได้ง่ายต่อการเตรียมงานและประสานกับฝ่ายต่าง ๆ เมื่อมีคนแนะนำ Mahassajan Event Organizer and Wedding จึงได้คุยกับคุณเอ็มและคุณไตร่ตรอง แล้วเขาก็ช่วยดูสถานที่จัดงานให้ด้วย ตอนนั้นยังไม่ได้ดีลว่าจะจ้างนะคะ แต่ทีมงานเต็มที่กับเรา พอเปิดดูผลงานก็ยิ่งชอบ เพราะออกแบบใหม่และตกแต่งสวยมากจริง ๆ เราจึงวางใจให้ทีมมหัศจรรย์ฯ ดูแลค่ะ

ธีมงานสวยหวาน ซ่อนความหมายลึกซึ้ง  

       เราไม่ได้มีภาพชัดเจนว่าอยากได้ดีไซน์งานแบบไหน คีย์เวิร์ดมีแค่ชอบโทนสีพาสเทลละมุน ๆ และอยากได้งานสว่าง ทางคุณเอ็มก็ลองออกแบบมาให้ดู เป็นธีม ‘Lily of the Valley’ คุมโทนด้วยดอกไม้จริงสีขาว ชมพู และใบไม้สีเขียว โดยมีดอกไม้ประดิษฐ์คือลิลลี่แห่งหุบเขาค่ะ เป็นดอกไม้รูปทรงถ้วยคล้ายระฆัง นอกจากน่ารักแล้วยังความหมายดีด้วย เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนหวาน ที่จะมาช่วยเติมความสมบูรณ์ในชีวิตคู่ อย่างช่อดอกไม้ในงานแต่งของ Kate Middleton ก็ใช้ดอกไม้ชนิดนี้ค่ะ  

       เราเลือกตกแต่งงานแบบเดียวกันทั้งช่วงเช้าและเที่ยง ตรงแบ็คดรอปถ่ายภาพเน้นฉากสีขาว ประดับดอกไม้ให้คล้ายกับอยู่ในสวน ซึ่งสถานที่ของโรงแรม Pullman Bangkok King Power มีหน้าต่างกระจกพอดี ทำให้ได้แสงธรรมชาติอย่างที่ตั้งใจ ส่วนบนเวที ฉากจะเพิ่มเส้นคลื่น ๆ เพื่อให้ดูสมูธและดึงความโรแมนติกออกมาค่ะ

พิธีการเช้าสุดเรียบง่ายในบรรยากาศอบอุ่น

       สำหรับพิธีหมั้น หลังจากแต่งหน้า แต่งตัว เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มด้วยการถ่ายภาพในสวนกับเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวค่ะ ช่วงนี้แขกที่ทยอยมาถึงก็สามารถทานอาหารรองท้องก่อนได้ เมนูเป็นข้าวต้ม ชา กาแฟ แล้วค่อยเข้าสู่พิธีการ ตั้งขบวนแห่ขันหมาก มีกั้นประตูเงิน ประตูทอง และสู่ขอ ตามพิธีไทยทั่วไปค่ะ 

       หลังจากรับตัวเจ้าสาวแล้ว ถึงเป็นช่วงสวมแหวนและพิธียกน้ำชา เสร็จแล้วบ่าวสาวก็ขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุด เพื่อที่จะมารับแขกที่แบ็คดรอปในช่วงฉลองเที่ยงต่อค่ะ สำหรับพิธีในช่วงเช้า เราเน้นบรรยากาศธรรมชาติ ทั้งมุมถ่ายรูป จุดรับตัว ส่วนห้องทำพิธีเรากั้นห้องจัดเลี้ยงไว้ครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ดูอบอุ่นและมองเห็นแขกได้อย่างทั่วถึง พอถึงช่วงเลี้ยงฉลองถึงจะเปิดห้องส่วนที่เหลือค่ะ

งานฉลองอบอวลความโรแมนติก หวานชื่นทุกวินาที

       ช่วงงานเลี้ยงตอนเที่ยง ภายในงานจะเพิ่มสีสันด้วยโฟโต้บูธค่ะ เพื่อให้แขกมีแอคทิวิตี้มากขึ้นและช่วยเติมช่องว่างระหว่างเจ้าบ่าว-เจ้าสาวเปลี่ยนชุด ซึ่งเราถามทางทีมมหัศจรรย์ฯ ในช่วงท้าย ๆ แล้ว ทีมก็จัดมาให้ ส่วนของชำร่วยเลือกเป็นเป็นช้อนส้อมค่ะ เพราะผู้ใหญ่รีเควสว่าอยากให้เป็นของที่ใช้งานได้จริง

       มาถึงพิธีเปิดตัว เราเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง โดยมีเพื่อน ๆ โปรยกลิตเตอร์ให้ พอขึ้นสู่เวทีก็พูดแนะนำตัว และเชิญคุณพ่อของทั้งสองฝ่ายมากล่าวอวยพร เราไม่ได้มีประธานในพิธีที่เป็นคนใหญ่คนโต เพราะอยากได้ความรู้สึกใกล้ชิดและอบอุ่นค่ะ จากนั้นก็เชิญเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นคนที่ทำให้เราได้มาเจอกันอีกครั้งและได้แต่งงานกัน อารมณ์เม้าท์มอยค่ะ ปิดท้ายด้วยการตัดเค้กและโยนช่อดอกไม้  

       ในงานเราเลือกจัดรูปแบบค็อกเทล และมีซุ้มอาหารที่เรานำเข้ามาอีก 2 เจ้าค่ะ มีโต๊ะกลม 10 โต๊ะให้แขกผู้ใหญ่ ส่วนพื้นที่ที่เหลือให้เพื่อน ๆ แต่เราไม่มีอาฟเตอร์ปาร์ตี้นะคะ เพราะว่าเป็นช่วงกลางวันด้วย และอยากให้บรรยากาศคุมโทนหวาน ๆ ตลอดงานค่ะ

เลือกใช้แพลนเนอร์ถูกใจ เนรมิตงานได้ดั่งใจฝัน

       คู่เรามีเวลาเตรียมงานประมาณ 10 เดือน แต่งวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นสุด ๆ ทำให้สถานที่จัดงานมีช้อยส์ให้เลือกน้อย ขั้นตอนต่าง ๆ ก็เลยเริ่มยากตามไปด้วย แต่ทางทีมมหัศจรรย์ฯ ช่วยแนะนำเยอะมาก ตั้งแต่ร้านตัดชุดเจ้าบ่าว พาไปลองชุดเจ้าสาว และช่วยดู ช่วยออกความเห็น ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับคนไม่ค่อยได้แต่งตัวแบบเรา ช่วยคัดกรองช่างแต่งหน้า ช่างภาพที่ผลงานดี ทำงานเป็นมืออาชีพมาให้เราเลือกอีกที งานแต่งเลยถือว่าสมูธมากค่ะ ไม่ผิดหวังเลย  

ทุกรายละเอียดช่วยสร้างความประทับใจที่ไม่มีวันลืม

       โมเมนต์ที่ประทับใจคือช็อตโยนดอกไม้ เพื่อน ๆ มารอรับดอกไม้กันเต็มเลย แต่ด้วยความที่เราแรงน้อย โยนได้ไม่ไกล คนที่รับได้เลยกลายเป็นหลานสาว อายุประมาณ 10 ขวบเองค่ะ นอกจากนี้ก็แฮปปี้กับหลาย ๆ ฝ่าย ตั้งแต่ชุดเจ้าสาว ของอุ้ยเช่าตัดชุดงานเช้า สีน่ารักดี ดูเป็นตัวเรา ส่วนชุดงานฉลอง ตอนแรกไม่คิดว่าจะใส่เกาะอกได้ ทางร้านก็ช่วยแนะนำจนทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้น ส่วนแพลนเนอร์ดูแลงานได้เนี้ยบทีเดียว ทั้งการคุย ประสานงานกับแต่ละฝ่าย ทำได้ดีเลยค่ะ ช่างภาพก็ประทับใจ เขามีทีมงานหลายคนและพยายามเอนเตอร์เทน ทำให้ไม่รู้สึกเกร็งค่ะ

คำแนะนำบ่าว-สาว

เริ่มงานให้เร็ว อย่าชะล่าใจ : ถ้ามีเวลาในการเตรียมงานมากพอ อย่ารีรอที่จะเริ่มงานตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะทุกอย่างจะราบรื่นขึ้นเยอะ ถ้าเริ่มช้า สถานที่ที่อยากได้อาจจะเต็มไปก่อน

คุยกันให้ชัดว่าอยากให้งานเป็นแบบไหน : เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องคุยกันเองถึงทิศทางของงาน มีคอนดิชั่นอะไรบ้าง นอกจากนั้นก็ต้องคุยกับครอบครัวว่าเขามีงานในฝันของเขาด้วยหรือไม่ จะได้ปรับให้ลงตัว เพราะสุดท้ายงานแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคน

ใช้แพลนเนอร์ช่วยแบ่งเบางาน : สำหรับคนที่รู้สึกว่าอยากจัดงานแต่งด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่ค่อยมีเวลาหรือไอเดีย การมีแพลนเนอร์ก็จะช่วยตรงนี้ได้ แม้จะแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดังนั้นให้ลองเปรียบเทียบข้อดีกับจัดสรรงบประมาณดู

เริ่มคิดภาพงานแต่งจากสิ่งที่ชอบ : การตกแต่งเป็นสิ่งที่ต้องหาภาพให้ชัด บ่าวสาวอาจตกลงเรื่องโทนสีที่ชอบ ดอกไม้ ลายเส้น โดยส่ง Reference ให้กับแพลนเนอร์เพื่อให้เกิดภาพรวม และที่ขาดไม่ได้คือชุดของเจ้าสาวก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยดีไซน์งานออกมาได้อย่างสวยงามและคุมโทนเดียวกัน