Mandarin Oriental, Bangkok โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่จัดงานสวยมีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก พร้อมบริการแบบไทยที่ใส่ใจทุกรายละเอียด
นี่ไม่ใช่การแต่งงานครั้งแรกของพิมพ์กับคัลเลณ (เจ้าบ่าว) ค่ะ เพราะเมื่อปี 2021 เราจัดงานแต่งเล็ก ๆ ที่อเมริกา บ้านเกิดของคัลเลณมาแล้ว เมื่อมีโอกาสกลับมาจัดงานที่เมืองไทย เราจึงตั้งใจเลือกสถานที่แต่งงาน ที่มีประวัติศาสต์และมีความเป็นไทย เพราะอยากให้ยูนีคและแตกต่างจากงานแรกค่ะ เราไปดูมาหลายที่ แต่ไม่ตรงใจ จนกระทั่งมา Mandarin Oriental, Bangkok (โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ) ที่เป็นตำนานและตอบโจทย์ทุกอย่าง ผู้ใหญ่เองก็ชอบ พอได้คุยกับทีมงานก็ยิ่งประทับใจ เพราะเขาสามารถตกแต่งดอกไม้ให้ดูแปลกใหม่ได้ ส่วน Royal Ballroom ก็มีภาพวาดที่สะท้อนวิถีชีวิตริมน้ำของกะลาสีต่างชาติในสมัยก่อน ดูมีสตอรี่อย่างที่เราอยากได้เลยค่ะ
บ่าวสาวกับลุคที่เป็นตัวเองมากที่สุดในวันแต่งงาน
พิมพ์คิดมาตั้งแต่แรกเลยว่า ถ้าจะแต่งงาน เราจะเป็นเจ้าสาวผมสีชมพู เพราะเป็นตัวเราที่สุด ดังนั้นจึงต้องบอกกับทุกคนด้วยว่า วันงานผมเราจะสีชมพูนะคะ ช่างแต่งหน้า ทำผม หรือร้านชุดแต่งงานจะได้เห็นภาพลุคของเรา อย่างชุดไทย พิมพ์ก็สู้กับที่ร้านเลยว่าขอสีชมพูบาร์บี้ ใส่สลับกับชุดเดรสสีขาวแขนยาว ปักลายดอกไม้สีพาสเทล ซึ่งเป็นชุดที่ใช้ตอนแต่งงานที่อเมริกาและชอบมาก ๆ เลยอยากใส่ในงานนี้อีกครั้งค่ะ
พอชุดงานกลางวันเป็นแขนยาว ชุดงานฉลองตอนเย็นเลยเซ็กซี่ เปิดหลังหน่อย พิมพ์ตัดกับร้าน IRADAA made for ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากชุดของ Keira Knightley ในภาพยนตร์เรื่อง Atonement ค่ะ ขณะที่คัลเลณเองก็ขอใส่สูทที่มีสีสัน ทั้งฟ้าและแดง โดยเน้นความสบายตัว เพราะเขาไม่ชอบชุดที่เข้าทรงจนอึดอัดค่ะ
งานกลางวันธีม ‘Cottagecore’ พาทุกคนหลบเข้าป่ามาสนุกกัน
งานที่อเมริกา เราได้ไอเดียมาจากคำว่า Cottagecore ค่ะ นึกภาพงานแต่งเล็ก ๆ ริมชายป่า ให้แขกได้หลีกหนีความเครียด มาสนุกในงานของเรา และดึงเอาธีมนี้มาจัดที่ไทยด้วย แต่ปรับให้เข้ากับสถานที่มากขึ้น อย่างงานเลี้ยงตอนกลางวันที่ The Author’s Lounge โรงแรมตกแต่งโุถงบันไดด้วยดอกไม้แน่น ๆ เน้นสีพาสเทลสดใส ตัดด้วยพุ่มดอกไม้สีขาวให้เข้ากับสีของห้องค่ะ
สำหรับบริเวณสวนด้านหน้า จัดเป็นมุมรับตัวเจ้าสาว ตกแต่งด้วยเห็ดและดอกไม้ยักษ์หลายสี เหมือนอยู่ในป่าของ Alice in Wonderland ค่ะ
ส่วน Dress Code ก็เลือกสีพาสเทล แต่มีโน้ตไว้ว่าถ้าอยากใส่ชุดไทยให้ติดต่อพิมพ์ได้เลย ปรากฎว่าทั้งแขกต่างชาติและเพื่อน ๆ คนไทยหลายคนก็อยากใส่ด้วย เราก็เลยเช่าชุดไทยให้กับทุกคน ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวเท่านั้นค่ะ
เราอยากจัดงานแต่งเพื่อให้แขกทุกคนมีความสุข เลยดีไซน์รายละเอียดในงานเยอะมาก โดยแจกหนังสือพิมพ์ Pico News (Pico เป็นชื่อเล่นของคู่เรา PI ย่อมาจากชื่อพิมพ์ และ CO มาจากชื่อคัลเลณ) เขียนอธิบายว่าทำไมเลือกสถานที่นี้ อาหารแบบนี้ ลำดับพิธีมีอะไรบ้าง เพราะเรามีแขกต่างชาติเยอะ เขาจะได้เข้าใจพิธีแต่งงานของไทยค่ะ
เรื่องพิธีการ เราเอาไทยที่สุดเท่าที่จะไทยได้ และอันไหนไม่สนุก ไม่ทำค่ะ โดยจัดพิธีสงฆ์ที่วัดราชบพิตรฯ แยกวันไปก่อน ส่วนวันแต่งจริงจะเริ่มด้วยการแห่ขันหมากตอน 9 โมงค่ะ ซึ่งที่นี่มีกิมมิกแห่ขันหมากจากเรือด้วย คัลเลณกับครอบครัวก็จะร้องเพลงกับขบวนกลองยาวมาขึ้นฝั่ง เพื่อผ่านประตูเงิน ประตูทอง ซึ่งแต่ละด่านปังมาก! ทั้งให้หารูปหมูเด้งบนโปสเตอร์ ตอบชื่อเต็มของกรุงเทพฯ พูดคำไทยยาก ๆ ให้ถูก และหารองเท้าเจ้าสาวค่ะ
ผ่านประตูเข้ามาแล้ว ปกติก็จะต้องเจรจาสู่ขอ แต่เรารู้สึกว่าไม่สนุก ก็เลยข้ามช่วงสวมแหวน ตัดไปที่พิธีกรคุยกับคัลเลณ และให้ถือพวงมาลัยออกมารับตัวพิมพ์ที่สวนเลย แต่ช่างภาพบิ้วให้เอาดอกไม้ยักษ์ที่ตกแต่งมามอบให้แทน เลยกลายเป็นภาพที่เรียลมาก ใครอยากได้ช่างภาพสนุก ๆ พิมพ์แนะนำคุณศานิต Sanit.portfolio เลยค่ะ
พอเข้ามาให้ห้อง เราจะขึ้นเวทีเพื่อทักทายแขก และรดน้ำสังข์เลยค่ะ ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่เราชอบมาก เพราะแขกทุกคนจะมาอวยพรแบบใกล้ชิด ได้ทั้งความซาบซึ้งและมีความสุขสุด ๆ หลังจากนั้นถึงจะไปเปลี่ยนชุด ระหว่างที่แขกกินข้าวค่ะ
เราเน้นอาหารไทยและมังสวิรัติค่ะ บอกเลยว่าตอนเลือกเมนู Head Chef ชาวฝรั่งเศสจริงจังมาก ถึงขั้นสั่งเนยที่ไม่ได้ทำจากนม เพื่อมาทำครัวซองส์ให้ ถ้าไม่อร่อยไม่เสิร์ฟ โดยรอบเช้าเป็น Coffee Break กับ Snack Box ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขนมปังไส้หมูหยอง ครัวซองส์ สลัดเต้าหู้ให้ชาวมังฯ และซาลาเปาค่ะ ส่วนมื้อเที่ยงเป็นคานาเป้และอาหารไทย เช่น เกี๊ยวกุ้ง ข้าวมันไก่ บะหมี่เป็ดย่าง เป็ดปักกิ่ง สปาเกตตี้ เทมปุระ เอาให้จุก!
พอเปลี่ยนชุดเสร็จ เราก็เปิดตัวด้วยการเล่นเกม Bingo และจับฉลากแจกของรางวัล เช่น ยาดม Butterbear Limited Edition และ Ipad ค่ะ เรียกว่าเสิร์ฟความสนุกให้แขกยาว ๆ ถัดจากนั้นมีคิวส่งตัวค่ะ แต่เราแค่ขึ้นรถวนหน้าโรงแรมหนึ่งรอบพอเป็นพิธี แล้วขึ้นไปตัดเค้กต่อ จบด้วยโยนช่อดอกไม้ ซึ่งโรงแรมทำมาเซอร์ไพรส์ค่ะ
Wedding Party ในบรรยากาศป่าสไตล์ทรอปิคอล
สำหรับงานฉลอง เราจัดช่วงเย็นของวันรุ่งขึ้น โดยตกแต่งงานให้ดูเป็นป่าเขตร้อนค่ะ กิมมิกอยู่ที่การออกแบบลายผ้าแฮนด์เมด ฝีมือดีไซเนอร์ชาวไทย จนได้เป็นผ้าสีฟ้าและชมพูลายดอกไม้ที่เป็น Main ในงานเราค่ะ
ตรงแบ็กดรอปเน้นตกแต่งดอกไม้สีสด ๆ และป้ายนีออน เพื่อให้ได้ฟีลปาร์ตี้ มีไดคัทรูปกระต่ายและลิง ที่สื่อถึงตัวพิมพ์กับคัลเลณ ส่วนอีกมุมจัดเป็นฉากและแปะรูป Pre-Wedding ของเราเข้าไปด้วยค่ะ
ในห้องบอลรูม ตรงเวทีจะมีผืนผ้าเด่นเลย ตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้แนว Tropical ตรงกลางวางโต๊ะให้บ่าวสาวนั่ง ส่วนโต๊ะแขกเราจัดรูปแบบเป็นโต๊ะกลมทั้งหมด โดยจัดวางดอกไม้ให้ดูกลมกลืนกันค่ะ
ลำดับพิธีงานเลี้ยง แขกจะทยอยมาถ่ายรูป และจิบค็อกเทลกันก่อนเริ่มงาน พร้อมกับรับของชำร่วยเป็นจานรองแก้ว เพราะพ่อแม่ของพิมพ์แจกจานรองแก้วในงานแต่ง เราเลยนำลายนั้นมาดีไซน์ใหม่ค่ะ
พิธีการน้อย เน้นเอ็นจอยปาร์ตี้
พอได้เวลา เราจะเปิดตัวด้วยเพื่อนบ่าวสาวแต่ละแก๊ง โดยใช้ไฟแว้บ ๆ เหมือนอยู่ในสนามมวยและเปิดเพลงไหว้ครู จังหวะนี้แขกฮาทั้งห้องค่ะ ต่อด้วยพิมพ์กับคัลเลณเดินเข้ามา และขึ้นเวทีพูดต้อนรับ จากนั้นก็กินข้าวร่วมกันค่ะ
หลังจากกินข้าวเสร็จ คุณพ่อคุณแม่ของพิมพ์จะขึ้นกล่าวอวยพรแบบไทยสุดฤทธิ์ มีไชโยด้วย ส่วนครอบครัวคัลเลณก็มา Toast แบบฝรั่ง แล้วก็โยนดอกไม้ค่ะ ตามด้วยเกม Bingo อีกรอบ ซึ่งคนที่ได้รางวัลใหญ่ก็คือคุณเปรี้ยวที่ออกแบบลายผ้าค่ะ แถมท้ายด้วยเกม Kahoot ตอบคำถามแจกรางวัล งานเราเน้นสนุก แขกจะได้มีส่วนร่วมตลอดงานค่ะ
เสร็จช่วงพิธีการ เราก็ไปเปลี่ยนชุดและกลับเข้ามาเปิดงาน After Party โดยให้เพื่อน ๆ ยิงเปเปอร์ชู้ตค่ะ จากนั้นก็ถึงช่วงตัดเค้ก จริง ๆ เราเลือกรินแชมเปญทาวเวอร์ไว้แล้วค่ะ แต่ทางโรงแรมพรีเซนต์ว่าเค้กอร่อย เลยทำเค้กสีเขียวมาให้เข้ากับปาร์ตี้ และให้ใช้แก้วไวน์ตักเค้ก รวมถึงแขกก็มาตักได้เหมือนกัน ต่อด้วยเต้นยาว ๆ จนถึงเที่ยงคืนเลย
ทีมงานฝีมือดี ได้งานตรงใจ ทั้งแขกและบ่าวสาวปลื้ม!
เราตั้งใจเลือกเวนเดอร์ที่เป็นเจ้าเล็ก ทั้งเวดดิ้งแพลนเนอร์ MATTERDAY, ดอกไม้ Blooming days, ดีไซเนอร์ hadamundo.pattern, ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ก็ไม่ได้เป็นเบอร์ใหญ่ เพราะเราชอบทำงานกับคนรู้จัก แต่ถ้าถามว่าประทับใจใครเป็นพิเศษ ก็ต้องช่างภาพ คุณศานิต เพราะบิ้วเก่ง ทำให้งานสนุกขึ้นได้ อีกคนที่มาเงียบ ๆ แต่ผลงานเป็นที่ชื่นชอบมากคือ คุณเล็ก ช่างภาพฟิล์มจาก Emorefilmphoto เหมือนเขาซ่อนอยู่ในงาน มาสแนป ๆ แต่รูปคือดี
ที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษ คือ คุณกบ เซลล์ของโรงแรม ที่มีประสบการณ์ ทำถึงที่สุด! และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี อย่างคู่เราใช้เก้าอี้ชิวารีสีทองทั้ง 2 งาน แต่ด้วยความที่จัดคนละวัน เลยขอให้โรงแรมหาที่เก็บไว้ให้ สุดท้ายคุณกบติดต่อกับคู่ที่จัดงานแต่งวันก่อนหน้าเรา เพื่อให้เอาเก้าอี้ไปใช้ใน VIP Section ของงานเขา เราก็ไม่ต้องหาที่เก็บเก้าอี้ กลายเป็นวินทุกฝ่าย เป็นทางออกที่ประทับใจมาก
ส่วนเรื่องอาหารก็มีคนพูดเยอะว่าเด็ดจริง ขนาดสั่งมาเผื่อแล้ว แต่แขกกินเบิ้ลจนแทบไม่พอเลยค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว
อยากมีโมเมนต์กับใครต้องจัดคิว : วันแต่งงาน เวลาจะผ่านไปเร็วมาก ถ้าอยากอยู่กับเพื่อนกลุ่มไหนหรือแม้แต่แฟนเราเอง ก็ต้องตั้งใจสร้างโมเมนต์ขึ้นมา เพื่อซึมซับความสุขตรงนั้น แนะนำให้บอกรันคิวเพื่อจัดเวลาเอาไว้ หรือจัดงาน 2 วันไปเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องรีบเร่ง
ชัดกับความต้องการของตัวเอง : ถ้าบ่าวสาวมีแรงบันดาลใจหรือความต้องการที่ชัดเจนในเรื่องไหนก็ตาม ให้บอกทีมงานไปเลย เช่น ชอบรูปสไตล์ไหน อยากได้ชุดสีอะไร ตัดพิธีอะไรออก และต้องมั่นใจ อย่าหวั่นไหว
บ่าวสาวควรเป็นตัวเองที่สุด : บอกร้านชุดแต่งงานถึงลุคที่อยากได้ในวันงานด้วย เช่น อยากทำผมสีชมพู ขอชุดเจ้าสาวสีชมพูบาร์บี้นะ หรือเจ้าบ่าวชอบใส่สูทสีสัน แนวหลวม ๆ เขาจะได้ตัดให้ถูกใจ และรู้สึกเป็นตัวเองที่สุด
เทคนิคการทำสีผมแฟชั่น : เจ้าสาวที่ทำผมสีแฟชั่นมักจะกลัวสีผมเฟด แต่แทนที่จะนัดช่างทำสีผมบ่อย ๆ ลองเลือกใช้แชมพูฆ่าสีเหลือง หรือแชมพูที่เหมาะกับสีผมของเรา นี่แหละเคล็ดลับรักษาสีผมให้สวยถึงวันงาน
Photographer : sanit.portfolio, coffeoto, emorefilmphoto, maxthescan