รีวิวงานแต่งจากธีมสีมงคล ครบจบ อบอุ่น ฉบับบ่าวสาวเตรียมงานเอง @Chatrium Hotel Riverside Bangkok

Chatrium Hotel Riverside Bangkok สถานที่จัดงานแต่งงานริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศอบอุ่น แฝงความหรูหราด้วยเส้นสายแชนเดอเลียร์ มาพร้อมแพ็กเกจสุดคุ้มค่า

       ปังหวานกับเม้ง (เจ้าบ่าว) ตกลงกันว่าจะจัดงาน 2 ที่ คือพิธีหมั้นและแต่งงานแบบไทยที่อุดรธานี บ้านปังหวาน กับกรุงเทพฯ เป็นพิธีฉลองมงคลรสค่ะ ตอนแรกเราไม่ได้คิดจะจัดโรงแรม เพราะแขกจะเป็นรุ่นเราและไม่มีพิธีทางการ ก็หาหลายที่ค่ะ แต่ติดเรื่องเดินทางลำบาก กระทั่งเม้งไปงานเวดดิ้งโชว์เคส ที่ Chatrium Hotel Riverside Bangkok (โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ) แล้วถูกใจมาก ๆ เพราะโลเคชั่นดี ตัวห้องจัดงานมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และเราเคยทานบุฟเฟ่ต์ที่นี่จึงมั่นใจว่าอาหารอร่อย แขกไม่เบื่อแน่นอน จึงเลือกที่นี่เป็นสถานที่แต่งงานค่ะ

มีเวลาเตรียมงานกว่า 1 ปี บ่าวสาวจึงลุยเองทุกอย่าง

       เราใช้วิธีแยกกันจัดการเลย คือปังหวานดูแลงานที่อุดรฯ ส่วนเม้งดูแลงานที่กรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้ตีกัน แบ่งอำนาจการตัดสินใจกันชัดเจน แต่ base on ความต้องการของเราสองคน ทั้งเรื่องบัดเจ็ท ดีเทล จำนวนแขก ทุกอย่างเราทำเองหมด ไม่มีแพลนเนอร์หรือออแกไนซ์ โดยตกลงกันเองก่อน แล้วนำไปคุยกับที่บ้านค่ะ 

       คีย์หลักคือทำยังไงก็ได้ให้ครอบครัวแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย และงานดู homey อบอุ่น เพราะเรามีเพื่อนที่มาจากเมืองนอก แต่ก็ต้องดูผู้ใหญ่ด้วย งานแต่งจึงต้องมีพิธี แต่เน้นความกันเอง จัดเลี้ยงรูปแบบบุฟเฟ่ต์ มีโต๊ะกลมประมาณ 24 โต๊ะ เพราะอยากให้ทุกคนได้นั่งทั้งหมด จะได้ไม่เมื่อยค่ะ

        ส่วนภาพรวมของงาน เราสโคปให้ง่ายขึ้นด้วยการใช้ธีมสี 3 สี โทนเขียว ชมพู และเบจ โดยที่สีเขียวกับชมพูเป็นสีมงคลของเราสองคนค่ะ เราแพลนทุกอย่างให้ใช้ได้ทั้ง 2 งานเลย พอแต่งที่อุดรเสร็จปุ๊บ เม้งจะมาดีลฝั่งชาเทรียม แต่พี่แจ๊ดด เซลล์ที่ดูแล จะคุยกับเราพร้อมกัน เพราะผู้ชายจะเลือกรูปแบบแบ็คดรอปหรือดอกไม้ได้ไม่เก่งเท่าผู้หญิง 

       ส่วนการ์ดแต่งงานทำเอง เน้นอ่านง่าย ตัวใหญ่ และเลือกของชำร่วยเป็นกระเป๋าผ้า สกรีนลายการ์ตูน ไม่ได้มีอะไรบ่งบอกว่ามาจากงานแต่งงาน เพราะเราอยากให้แขกนำไปใช้ได้โดยไม่เขินค่ะ

ตกแต่งเรียบง่ายในโทนสีมงคล

       เราให้โรงแรมดูแลการตกแต่ง ซึ่งในแพ็กเกจงานแต่งจะมีช้อยส์ให้เราเลือกแบ็คดรอปว่าอยากได้แบบไหน ทำให้ง่ายและสะดวกค่ะ ตัวฉากเป็นสีขาว มีดอกไม้โทนชมพูด้านบนไล่ระดับเฉียงลงมาตรงกลาง โลโก้บ่าวสาวใช้ฟอนต์เดียวกับพรีเซนเทชั่น เลือกตั้งแบ็คดรอปบริเวณที่ว่างริมกระจกก่อนถึง Hall way เวลาถ่ายรูปหน้างานจะได้ไม่ดูแน่นเกินไปค่ะ

       ต่อมาจะเจอโต๊ะเซ็นอวยพร เราตกแต่งดอกไม้เล็กน้อย รวมถึงวางกรอบรูปพรีเวดดิ้งทั้งสองฝั่ง มีพุ่มดอกคัตเตอร์เล็ก ๆ วางไว้ที่ฐานกรอบรูป ฟีลมินิมอลหน่อย ในห้องหลังโต๊ะลงทะเบียนเราเปิดและนำโฟโต้บูธไว้ในนั้น เพื่อแบ่งสัดส่วนให้แขกโฟลว์ ก่อนเข้าสู่ห้องบอลรูมค่ะ ซึ่งเราชอบแชนเดอเลียร์ที่ทำให้งานดูสวยหรูขึ้นทั้งด้านในและด้านนอกเลยค่ะ

       ส่วนบนเวทีจะตกแต่งดอกไม้สดแบบเล็ก ๆ น่ารัก รวมถึงตรงโต๊ะรินแชมเปญด้วยค่ะ ตัว LED เราใช้เปิดพรีเซนเทชั่นและในช่วงพูดคุย ใส่แบ็คกราวลายท้องฟ้าสีพาสเทลที่ปังหวานทำเอง โดยใช้เพลงในการเปลี่ยนมู้ดแต่ละช่วงแทนค่ะ

พิธีการน้อย เน้นเฉลิมฉลอง แต่ยังคงความอบอุ่นจากแขกคนสนิท

       ประธานในพิธีของเราคือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจะมาปาร์ตี้อย่างเดียวไม่ได้ พิธีการเลยเริ่มจากเราเดินเปิดตัวเข้าไปพร้อมกัน ผ่านเพลง “เหตุผลของการมีชีวิตอยู่คือการได้พบกับเธอ” ของ No one else ที่ บีน นภัสสร น้องสาวของเม้ง เป็นคนร้องให้ โดยมีเพื่อน ๆ โปรยดอกไม้ค่ะ

       พอขึ้นเวที คุณวศิน วัฒนวรกิจกุล Managing Director บริษัทกองทุนบัวหลวง หัวหน้าของเม้งจะเป็นผู้กล่าวเปิด คุณอภิสิทธิ์เป็นคนมอบพวงมาลัยบ่าวสาวและร่วมไชโย ซึ่งเป็นพิธีที่เม้งรีเควส์ค่ะ เสร็จแล้วก็พูดคุยกับพิธีกร และไปรินแชมเปญ พิธีเราค่อนข้างเร็วค่ะ จากนั้นก็มาดึงริบบิ้นดอกไม้และโยนกล่องเหล้า เรียบร้อยแล้วถึงเป็น After Party ให้ดีเจมาเปิดเพลง ม่วน ๆ จอย ๆ กันถึงประมาณ 4 ทุ่มค่ะ

ความประทับใจล้นทั้งแขกและบ่าวสาว

       เราทั้งคู่แฮปปี้มาก ทุกอย่างสมูธในทุกสเต็ปค่ะ ถ้าเกิดวันนั้นมีอะไรผิดพลาดก็ไม่รู้สึกแย่ ซึ่งเราต้องยกความดีให้โรงแรมไปเต็ม ๆ เลยค่ะ อย่างเพื่อนที่จะแต่งงานมาถามว่า ใช้ออแกไนซ์อะไร รันคิวที่ไหน เราก็ให้คอนแทคชาเทรียมเลย เพราะเขาช่วยเราได้เยอะ ดูแลเหมือนเราเป็นน้องสาว ให้กำลังใจ เข้าอกเข้าใจเรามากกว่าตัวเราเองอีกค่ะ

       เราประทับใจความมืออาชีพของที่นี่ ตอนเลือกอาหาร จะมีเชฟมาคุยกับเราเลย สมมติเรารู้สึกว่ารสชาติเผ็ดไป เขาก็แนะนำว่าลดความเผ็ดได้นะ แต่อาจจะเลี่ยนหน่อย เขาสามารถชี้แนะได้ หรือหากปวดหัวเรื่องโต๊ะ กลัวแขกมาเกินจากที่คิดไว้ พี่แจ๊ดดก็เสนอทางออกให้ ทำให้รู้สึกว่าเลือกถูกที่จัดงานแต่งที่นี่

คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว

แม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่งานแต่งต้องเดินหน้า : บ่าวสาวอาจกระทบกระทั่งกันบ้างระหว่างเตรียมงาน แต่ให้รู้ไว้ว่างานแต่งของเราจะไปต่อ ต้องหาทางออกร่วมกันให้ได้ พูดตรง ๆ ต่อกัน เรารักกันมานาน สุดท้ายจะทะเลาะแล้วเลิกก่อนแต่งก็ไม่ใช่เรื่อง

การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคน : การแต่งงานเป็นเรื่องของครอบครัวด้วย ต้องคำนึงถึงพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ เพื่อให้มีความสุขกันทุกฝ่าย

หากมีภาพแต่งงานในฝัน ต้องดูความเป็นจริงควบคู่ไปด้วย : อยากให้ดูว่าเรารับไหวแค่ไหน เพราะภาพแต่งงานในหัวกับสภาพเศรษฐกิจอาจไม่สอดคล้องกัน ให้อยู่กับความจริง เช่น อยากได้ก้อนเมฆ แต่แพงมาก ดังนั้นหากใช้ LED อาจประหยัดบัดเจ็ทได้

Photographer : NOPPORN kai