รีวิวงานหมั้นสวยอบอุ่น ด้วยงานไม้สไตล์ญี่ปุ่นสุดมินิมอล @ Hotel Nikko Bangkok

Hotel Nikko Bangkok สถานที่สวยสไตล์ญี่ปุ่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 

       นันได้ฤกษ์แต่งงานวันที่ 21/11/21 ซึ่งหลังรู้ว่าจะแต่งงานก็เตรียมหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแต่งงาน รวมถึงแอด LINE ของ SabuyWedding ไว้ตั้งแต่ปี 2019 เลยค่ะ(หัวเราะ)

       แต่กว่าจะได้สถานที่ตรงใจในวันที่ต้องการก็ใช้เวลานานมาก เพราะโควิดทำให้เกิดความไม่แน่นอน หากรัฐบาลประกาศว่าจัดงานไม่ได้ก็ต้องเลื่อนวัน เราเลยต้องรอ จนนันเข้าไปดู LINE ของ SabuyWedding แล้วเจอแพ็กเกจจัดงานแบบมินิมอล โดยไปสะดุดตากับ Hotel Nikko Bangkok (โรงแรม นิกโก้ กรุงเทพฯ) เพราะเคยไปพักโรงแรม Nikko ที่ญี่ปุ่นและชื่นชอบญี่ปุ่นมาก จึงตัดสินใจโทรหาโรงแรมค่ะ

       วันไปดูสถานที่จริงบอกเลยว่าถูกใจ โรงแรมสวยมาก มีการตกแต่งด้วยงานไม้ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น แล้วระหว่างดูสถานที่ก็ได้เซลล์คอยดูแลและให้คำแนะนำตลอด ทั้งยังสัมผัสได้ว่าเขาเข้าใจความต้องการของเราอย่างแท้จริงว่าไม่อยากเลื่อนวัน จึงพยายามจัดสรรสถานที่หาแผนสำรองและยืดหยุ่น รวมถึงช่วยแก้ปัญหาตามสถานการณ์โควิดอย่างเต็มที่ นอกจากนี้อีกสิ่งสำคัญคือเวลานันเห็นชื่อ Hotel Nikko Bangkok อยู่บนการ์ดของตัวเองก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกัน เลยเป็นเหตุผลที่เราเลือกแต่งงานที่นี่ค่ะ 

จัดงานไซส์เล็กใน Executive Lounge สะดวกและไพรเวท

       แพ็กเกจจัดงานที่นันเลือกเป็นพื้นที่ส่วน Executive Lounge ชั้น 21 รองรับจำนวนแขกได้ 50 ท่าน และมีการเช็คอินแบบไพรเวท หากแขกมาถึงสามารถติดต่อล็อบบี้เพื่อขึ้นมาชั้นจัดงานได้โดยตรง 

       แถมในแพ็กเกจยังให้ห้องพัก Nikko Executive Suite King Bed ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกันกับห้องจัดงานด้วย ทำให้สะดวกสบายมาก พอแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จก็เดินไปที่งานได้เลย ซึ่งนันชอบมากๆ ค่ะ

       สำหรับภายใน Executive Lounge จะดูอบอุ่นมากๆ เน้นการดีไซน์ที่เรียบง่ายโชว์เสน่ห์ของงานไม้แบบมินิมอล ผนังไม้ตรงบันไดก็มีการนำไฟฝังเข้าไปจึงทำให้เห็นลายไม้ชัดขึ้น ถือเป็นอีกกิมมิคการตกแต่งของโรงแรมที่นันชอบ และขณะเดียวกันก็ให้ฟีลเหมือนจัดงานที่บ้านได้บรรยากาศแบบครอบครัว โดยเฉพาะโซฟา เก้าอี้ต่างๆ มีแต่แขกบอกนั่งสบายมาก ใช้นั่งคุยและรับประทานอาหารกันไปเพลินๆ เลยค่ะ

       สำหรับการตกแต่งในงาน นันอยากแซมความหวานเข้าไปจึงเลือกธีมสีเป็นขาว ชมพู ม่วงค่ะ แล้วก็ได้ทีมโรงแรมนี่แหละตกแต่งให้เกือบทั้งหมด นันจึงไม่ต้องจ้างออแกไนซ์และแพลนเนอร์เลย ช่วยประหยัดงบไปได้เยอะ(หัวเราะ)

       เมื่อแขกออกจากลิฟต์มาจะเจอทางเข้าเลยค่ะ ตรงประตูกระจกจะตกแต่งด้วยสแตนดี้บ่าวสาว และมีจุดลงทะเบียนที่วางกรอบรูปอัลบั้มพรีเวดดิ้งอยู่ใกล้ๆ แล้วพอหันไปฝั่งขวาก็จะเป็นห้องทำพิธีที่ตรงฉากหลังจะเน้นตกแต่งเป็นดอกไม้สดใส่แจกันและประดับชื่อ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นโซนรับประทานอาหารที่สามารถมานั่งพูดคุยกันได้ โซนนี้มีทีวีให้ด้วยนะคะ เราจึงใช้เปิดสไลด์ภาพคู่ของเราให้แขกดูเพลินๆ ด้วยค่ะ

พิธีการกระชับ ปรับได้ดั่งใจ

       สำหรับช่วงพิธีการ นันอยากให้แขกที่มารู้สึกปลอดภัยและสบายใจ จึงตัดบางพิธีที่ต้องใกล้ชิดกันอย่างรดน้ำสังข์และยกน้ำชาออก โดยจะคงการแห่ขันหมาก เจรจาสู่ขอ รับตัวเจ้าสาว มอบสินสอด สวมแหวน รับไหว้ไว้ และมีพิธีส่งตัวแค่เฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น 

       ช่วงนี้นันไม่รู้สึกกังวลเลย เพราะมีสตาฟโรงแรมหลายคนมาแสตนด์บายคอยช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งดีมากๆ ค่ะ ส่วนแขกที่ไม่ได้เข้าร่วมในบางพิธี นันสั่งให้เสิร์ฟอาหารตั้งแต่ 10.00 น. แล้ว สามารถไปนั่งทานอาหารรอเพลินๆ ได้เลยค่ะ

เปลี่ยนชุดเจ้าสาว แล้วเดินถ่ายรูปเก็บความทรงจำ

       นันคุยกับทุกฝ่ายแล้วว่าจะไม่จัดงานฉลอง ดังนั้นชุดที่ซื้อเป็นแพ็กเกจไว้สำหรับงานฉลอง เพื่อไม่ให้เสียเปล่าจึงได้นำมาใส่ถ่ายรูปเล่นหลังจบพิธีการด้วยค่ะ ซึ่งเป็นโชคดีที่นันได้สถานที่ดีและเซลล์มีความยืดหยุ่น จึงสามารถเดินถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ของโรงแรมได้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณงานปฏิมากรรมรูปใบแปะก๊วยสัญลักษณ์ของโรงแรมด้านนอก ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้น 3 มุมสวน หรือจะเป็นมุมเอาท์ดอร์ด้านนอกที่นันก็ทราบมาด้วยว่าพื้นที่ตรงนี้มีไว้ใช้จัดงานแต่งได้เช่นกัน เหมาะสำหรับบ่าวสาวที่ชื่นชอบงานเอาท์ดอร์หรือต้องการแต่งงานสไตล์ตะวันตกค่ะ

งานเล็กสุดประทับใจ เต็มไปด้วยความอบอุ่น

       ด้วยความที่จัดงานขนาดเล็ก จึงได้ความเป็นส่วนตัวสุดๆ แขกก็รู้สึกสบายใจ คลายกังวลเรื่องโควิดไปได้เยอะ นันจึงรู้สึกดีมากๆ และยังดีใจ รู้สึกว่าคิดถูกที่เลือก Hotel Nikko Bangkok ภูมิใจที่ได้แต่งงานในแบบที่ต้องการ ทั้งยังประทับใจตัวห้องจัดงานที่สวย ดูอบอุ่น ที่สำคัญนันและเจ้าบ่าวประทับใจการให้บริการมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่นมาก โดยเฉพาะเซลล์ จากวิธีการแก้ปัญหาของเขาทำให้นันเห็นความใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนเรื่องใหญ่

       นอกจากนี้เรื่องอาหารที่เราเลี้ยงมื้อเช้าเป็นข้าวต้มปลากระพงและมื้อเที่ยงเป็นราเมนกับข้าวมันไก่ก็ได้คำชมเยอะว่าอร่อย โดยเฉพาะข้าวมันไก่นี่แขกชอบกันมากค่ะ ซึ่งบ่าวสาวก็โชคดีที่พนักงานเก็บข้าวให้ เราจึงได้ทานด้วย ก็ต้องยอมรับเลยว่าอาหารอร่อยจริงค่ะ(หัวเราะ)

แนะนำบ่าวสาว

เลือกชุดเจ้าสาวควรคำนึงถึงสถานที่จัดงาน : ควรดูรูปแบบการจัดงานก่อน จะได้เลือกชุดที่เหมาะสมกับงานได้ อย่างชุดงานหมั้นของนันก็จะเน้นความน่ารักสวยหวานสไตล์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกันก็จะเลือกแบบที่สามารถนั่งทำพิธีที่พื้นได้สบาย ไม่โป๊และไม่ยาวจนรุ่มร่ามค่ะ

อย่ายึดติดกับงานรูปแบบเดิม : เราอยู่ในยุคนิวนอร์มอล ฉะนั้นต้องปรับความคิดการจัดงานใหม่ เพราะหากยังยึดติดกับแบบเดิมๆ อาจทำให้เครียดได้ เพียงแต่อย่าลืมคุยกับคู่ของเราก่อนว่าอยากจัดแบบไหน เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกันและลดการขัดแย้งในภายหลังค่ะ

Photo : Deeplove