รีวิวงานแต่งในสวนสวยกลางเมือง by PaR Wedding @ Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok

เริ่มต้นจากศูนย์จนได้งานแต่งในฝัน 

       ตอนเริ่มเตรียมงานแต่งงาน ไอเดียของอ้มและมาร์ท(เจ้าบ่าว) คือศูนย์เลยค่ะ รู้แค่ว่าอยากได้งานในสวน แขกประมาณ 200 คน และวันที่แต่งงานเท่านี้เลย จนได้มาเจอคุณเส่ยกับทีม PaR Wedding Planner ที่ช่วยทุกอย่าง ทำให้เราเจองานแต่งในฝันและทำภาพฝันนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมา 

       เขาใช้วิธีถามให้เราค่อยๆ คิดว่าอะไรคือสิ่งที่อยากเห็นในงาน ให้บอกสิ่งที่ต้องการไป แล้วช่วยสโคปไอเดียที่ฟุ้งกระจายของเราให้เป็นรูปเป็นร่างชัดขึ้น ซึ่งอ้มชอบที่เขาไม่จำกัดกรอบแค่แบบที่เขาถนัดและต้องการทำ แต่พยายามจะทำในสิ่งที่บ่าวสาวต้องการให้สำเร็จมากๆ เลยค่ะ

งานแต่งฟีลสวนสวยที่ลงตัว ณ Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok

       ตอนหาสถานที่จัดงานแต่งงาน เรามองที่ที่เป็นสวน คุณเส่ยก็ช่วยลิสต์สถานที่มาให้เลือกและแนะนำให้เราดูโรงแรมด้วย เพราะมีเซอร์วิสและอุปกรณ์ที่พร้อม สรุปแล้วพอได้เทียบราคาความคุ้มค่า เรารู้สึกสนใจ Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok(โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพ) ซึ่งคุณเส่ยก็พาเราไปดูสถานที่จริงเลย และยังช่วยไกด์ไอเดียว่าสามารถจัดแบบไหนได้บ้างเพื่อให้ยังอยู่ในงบ สุดท้ายด้วยองค์ประกอบความพร้อม เซอร์วิสระดับโรงแรมที่จะได้และความสวยงามกับมีบริเวณสวนให้ใช้ของสถานที่ เราจึงตัดสินใจเลือกแต่งงานที่นี่ค่ะ(หัวเราะ)

       เราอยากได้งานแต่งฟีลอบอุ่น ได้บรรยากาศในสวนชิลล์ๆ เน้นความเรียบน้อย สบายตาและไม่หวานเกินไป จึงมาจบที่ธีมสีน้ำเงิน เขียว เทา ซึ่งเป็นโทนที่เข้ากับสถานที่และสวนค่ะ โดยเราไม่ได้ตกแต่งอะไรเยอะเลย จะมีแค่เวทีในล็อบบี้ที่ทำเป็นซุ้มดอกไม้โค้งขนาดใหญ่เท่านั้น ส่วนมุมอื่นๆ เราเพียงแค่นำรูปพรีเวดดิ้งมาตั้งไว้สวยๆ ค่ะ 

       เราไม่ได้ทำซุ้มหรือ Backdrop เพราะอยากได้บรรยากาศเหมือนเพื่อนมาเที่ยว มีเวลาพูดคุย แล้วเจอตรงไหนสวยก็ชวนกันถ่ายรูปเล่นมากกว่าไปตั้งใจต่อคิวรอถ่ายรูป ซึ่งเราได้จ้าง Photo Booth ให้ตามแขกด้วยนะคะ อารมณ์เหมือนเวลาไปเที่ยวแล้วมีคนถ่ายรูปปริ๊นท์ออกมาให้ แล้วคือตรงนี้ทุกคนแฮปปี้มาก วันวาเลนไทน์หลังงานแต่งของเรา อ้มเห็นแขกเอารูปที่ได้จากทีม Photo Booth มาโพสต์กันเต็มเลย ประทับใจมากค่ะ

       สำหรับของชำร่วย เรารู้สึกว่าบางคนที่ได้รับก็ไม่ได้เอาไปใช้ จึงอยากได้อะไรที่แค่วางไว้เฉยๆ ก็สวย เลยเลือกเป็นเทียนหอมผูกริบบิ้นเข้าธีมสีงาน ที่จะวางประดับไว้เฉยๆ ก็ได้หรือใครอยากจุดใช้ก็ดี โดยจะไม่ใส่ชื่อบ่าวสาวลงไป แต่เปลี่ยนเป็น Quote ไบเบิ้ลแทน เวลาแขกใช้จะได้ไม่ต้องนึกถึงเราตลอดเวลาค่ะ(หัวเราะ)

แม้ฟ้าฝนไม่เป็นใจ แต่งานก็ผ่านไปด้วยรอยยิ้ม

       เราจัดพิธียกน้ำชาไปแล้ว วันนี้จึงเป็นงานสบายๆ แล้วอ้มเป็นคริสต์เตียน ประกอบกับอยากได้งานเหมือนหนังแวมไพร์ที่ชอบเรื่องหนึ่งจึงแพลนว่าจะทำพิธีตอนเช้าเป็น Wedding Vows แลกแหวนกับคำสาบานในสวนและต่อด้วยพิธีการอื่นๆ ในล็อบบี้ค่ะ 

       แต่วันงานฝนกลับตก เราจึงต้องเริ่มที่ทำพิธีในล็อบบี้ก่อน ซึ่งช่วงนี้เราอยากได้งานง่ายๆ เหมือนมาพูดคุยกับเพื่อนมากกว่า เลยไม่ได้เน้นงานบนเวทีมาก มีการสัมภาษณ์บ่าวสาว ให้เพื่อนมาอวยพรพูดความในใจและตัดเค้กแค่นั้นค่ะ

       ส่วน Wedding Wows ที่สลับไว้ตอนหลัง สุดท้ายฝนไม่หยุดอย่างที่หวัง เราจึงทำพิธีกันในล็อบบี้เลย แต่ยังดีนะคะที่พอใกล้เที่ยงฝนเริ่มซา ก็เลยได้ไปโยนดอกไม้ด้านนอก เก็บภาพในสวนสวยๆ อย่างที่ตั้งใจไว้นิดนึง(หัวเราะ)

        เราเลือกแต่งงานหน้าหนาว ใครจะคิดว่าฝนจะตก วันนั้นหน้างานคือวุ่นวายมาก เพราะต้องย้ายทั้งคน ทั้งของ สนามหญ้าก็เปียก แต่ยังดีที่เราได้ทีมแพลนเนอร์จัดการให้ทุกอย่าง เขาจัดสถานที่ใหม่ได้เร็วมากและออกมาดีมาก จนอุ่นใจว่าถ้าฝนหยุดก็สามารถย้ายไปจัดงานด้านนอกได้แน่นอน แถมยังช่วยปรับแพลน รันพิธีใหม่ให้ด้วย เราก็เลยสบายใจ ต้องขอบคุณตัวเองที่เลือกทีมนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ชิลล์ขนาดนี้ค่ะ(หัวเราะ) 

จัดเลี้ยงเที่ยงบรรยากาศดี ไม่ต้องโฟกัสพิธีการก็ได้

       เราอยากให้ทุกคนได้ทานอาหารอร่อยแบบสบายๆ มีเวลาพูดคุยกันเต็มที่ ไม่ต้องมาทานไปด้วยสนใจพิธีการไปด้วย จึงพยายามกระชับพิธีให้สั้นที่สุดแล้วทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนถึงค่อยย้ายแขกไปทานเลี้ยงเที่ยงในห้องอาหารค่ะ แต่ระหว่างพิธีการเราก็จะมี Coffee Beak ที่ถือทานง่ายๆ ให้แขกด้วยนะคะ ซึ่งส่วนนี้ก็ได้ PaR Wedding Planner ช่วยดีไซน์เป็นมุมสวยๆ ให้ค่ะ

       ถ้าให้พูดถึงความประทับใจ งานนี้ต้องยกให้คุณเส่ยกับทีม PaR Wedding Planner เลย เพราะตั้งแต่ติดต่อไปครั้งแรกก็รู้สึกเลยว่าเขาคุยง่าย มีความใส่ใจ ตอบเร็ว ตอนเริ่มคุยไอเดียก็ช่วยให้เราเห็นภาพที่ชัดขึ้น บางดีเทลเราไม่รู้ไม่ทันคิดก็ช่วยคิดเผื่อ อย่างชุดเจ้าสาว คุณเส่ยละเอียดถึงขั้นนับกลีบพลีตและดูให้ทุกกลีบเท่ากัน ซึ่งพอแก้ตามที่คุณเส่ยบอก เราถึงได้รู้ว่าแค่ปรับดีเทลเล็กๆ ก็ทำให้ใส่ชุดได้เพอร์เฟ็กต์ขึ้นจริงๆ หรืออย่างตอนหาร้านอื่นๆ ไม่ว่าจะสถานที่ ชุดเจ้าสาว ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า นายพิธี เขาก็ช่วยลิสต์ตัวเลือกที่ดีและตรงสไตล์เรามาให้ รวมถึงช่วยจัดการดีลกับร้านให้เรียบร้อยเลยค่ะ

       แถมยังดูแลแขกทุกคนดีมากๆ หลังจบงานเพื่อนๆ และญาติมาชมให้ฟังว่าทีมงานเทคแคร์สุดๆ เจ้าบ่าวก็ปลื้มสุดๆ ชมไม่หยุดเหมือนกัน วันงานเหมือนบ่าวสาวมีหน้าที่ไปงานแต่งและมีความสุขเท่านั้นเลยค่ะ(หัวเราะ)

แนะนำบ่าวสาว

Wedding Planner จำเป็นมาก : บ่าวสาวไม่สามารถรับมือกับทุกอย่างได้ทั้งหมด ถ้าต้องคุยกับโรงแรม ติดต่อทีมต่างๆ หรือคอยตามเรื่อง ต่อราคา จะวุ่นวายและเหนื่อยมาก อ้มเคยเห็นหลายคนเครียดมากช่วงเตรียมงาน จนกลายเป็นว่าแทนที่จะเฝ้ารอให้ถึงวันแต่งเร็วๆ กลับอยากให้งานผ่านไปเร็วๆ เพราะไม่อยากเหนื่อยแล้ว ฉะนั้นถ้าจ้าง Wedding Planner ได้ ควรจ้างนะคะ แล้วการเตรียมงานจะมีแต่ความสุขค่ะ