Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residence สถานที่จัดงานใจกลางเมือง บรรยากาศสบายตา รับแสง Day Light บริการครบจบในราคาน่ารัก
ขิงกับหนึ่ง (เจ้าสาว) แพลนกันว่าจะดูสถานที่จัดงานแต่ง Outdoor ริมทะเล ภูเขา หรือแนวการ์เด้น แต่ช่วงที่เราแต่งงานเป็นหน้าฝนพอดี (เดือนมิถุนายน) กลัวว่าจะเฉอะแฉะ ยิ่งถ้าฝนตกจะกลายเป็นอุปสรรคครับ เลยเปลี่ยนไปดูสถานที่ Indoor แต่ยังเห็นบรรยากาศธรรมชาติอยู่ กระทั่งมาเจอ Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residence (โรงแรม บลิสตัน สุวรรณ พาร์ควิว) ซึ่งแพ็กเกจครอบคลุมทุกอย่างครับ มีโซนที่เป็นกระจกคล้าย Glasshouse และห้องจัดเลี้ยงฟังก์ชั่นลงตัว สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งที่จอดรถ ใกล้รถไฟฟ้า สะดวกสบายมากครับ จึงเลือกที่นี่อย่างไม่ลังเลเลย
งานหมั้นบรรยากาศสดใสตามใจเจ้าสาว
เนื่องจากเจ้าสาวเป็นคนชอบสีสดใสแนว Candy ครับ อย่างชมพู ฟ้า เขียว แล้วก็ชอบดอกไม้ด้วย เราก็เลยเลือกตกแต่งโซนห้องที่มีผนังกระจกด้วยดอกไม้หลากชนิดในโทนสีนี้ พร้อมกับติดโลโก้บ่าวสาว ส่วนในห้องจัดเลี้ยงเราใช้ทำพิธีสงฆ์ จะเน้นความเรียบ โทนสีขาวและทองครับ ซึ่งการตกแต่งและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในพิธีสงฆ์และงานหมั้น ทางโรงแรมมีให้ทุกอย่างเลยครับ นี่ก็เป็นเหตุผลที่เราชอบที่นี่ด้วย
สำหรับพิธีหมั้น เริ่มตั้งแต่ฟังพระสวดเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร ซึ่งในห้องเปิดรับแสงธรรมชาติ ก็จะได้บรรยากาศสดชื่น ๆ เลยครับ จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงสู่ขอ โดยคุณแม่ของผมจะเจรจากับทางครอบครัวเจ้าสาว เสร็จแล้วถึงจะไปตั้งขบวนแห่ขันหมากริมระเบียงด้านนอกครับ งานนี้มีประตูเงิน ประตูทอง ประมาณ 10 ด่านเลย ถ้าเป็นด่านผู้ใหญ่ ให้ซองก็ผ่านง่าย แต่ด่านเพื่อน ๆ เจ้าสาวก็จะเล่นเกม เต้น บอกรัก อันนี้จะยากหน่อย แต่สนุกมากครับ
จากนั้นก็เข้ามาในห้อง นับสินสอด เรียบร้อยแล้วผมก็ออกไปรับตัวเจ้าสาวที่เก้าอี้ด้านนอก ก่อนกลับเข้ามาทำพิธีกราบครอบครัว สวมแหวน รดน้ำสังข์ แล้วถึงจะรับไหว้ ก่อนจะไปทำพิธีส่งตัวที่ห้องพักของโรงแรมครับ โดยช่วงเช้าโรงแรมจัดเตรียมอาหารว่างเป็นข้าวต้ม บะหมี่ และคอฟฟี่เบรคครับ
งานฉลองเติมความสวยหวาน โรแมนติก แต่อบอุ่น
กิมมิกของงานเราจะอยู่ที่งานเย็นมากกว่า อย่างการตกแต่ง เปิดลิฟต์มาก็จะเจอโซนบิลด์อินของโรงแรม ที่เราจัดเป็นแกลเลอรี่เล็ก ๆ นำกรอบรูปบ่าวสาวไซส์ 4x6 ไปวางเรียงกันให้สวยงามครับ ตั้งใจให้เหมือนอยู่ในบ้าน ส่วนตัวแบ็คดรอปเป็นฉากสีขาว ประดับดอกไม้โทนหวานขึ้นมา เป็นสีชมพูและส้มครับ ซึ่งเราเลือกแบบจากแพทเทิร์นที่โรงแรมมีให้เลย
ด้านในห้อง ตรงเวทีจะตกแต่งดอกไม้สีสดใส ส้ม แดง รวมถึงโต๊ะเค้กด้วยครับ ส่วน Dress code ของแขก เราให้แต่งตัวธีม Candy เช่น สีชมพู สีเขียว สีฟ้า เพื่อเพิ่มสีสันให้กับงานครับ ซึ่งเราเลือกจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์นานาชาติ เมนูเด็ดจะมีเป็ดอบซอสส้ม ยําสามกรอบ และมีซุ้มบะหมี่ ซุ้มส้มตําให้ด้วยครับ แขกชอบกันมาก
หลังจากถ่ายรูปหน้าแบ็คดรอปเรียบร้อย แขกจะได้รับของชําร่วยเป็นกระเป๋าใส่นามบัตรครับ มีให้เลือกทั้งสีส้ม สีเทา และสีครีมครับ จากนั้นพิธีการก็เริ่ม โดยคุณพ่อเจ้าสาวจะพาหนึ่งเดินเข้ามาในงาน ส่วนผมยืนร้องเพลงและเดินมารับตัวเจ้าสาวตรงกลางห้อง พอขึ้นเวทีแล้ว ผมให้คุณแม่เป็นประธาน ท่านก็จะขึ้นมากล่าวอวยพรและสวมพวงมาลัยให้ครับ
เสร็จแล้วก็มีการพูดคุยบนเวที ตอบคำถามจากพิธีกร โยนดอกไม้ แล้วค่อยไปตัดเค้ก ที่เอาพิธีตัดเค้กไว้หลังสุด เพราะส่วนใหญ่จะตัดทีก็ถ่ายรูปเยอะ เราจะได้มีเวลาถ่ายรูปเต็มที่ แล้วก็มอบให้ผู้ใหญ่ด้วยครับ
หลัง 2 ทุ่ม โรงแรมก็จะบีบห้องมาเหลือโซนเดียวเพื่อจัด After Party ครับ มีดนตรีสด และปิดงานประมาณ 4 ทุ่ม เพราะไม่อยากให้งานเลิกดึกมากครับ
จัดงานง่าย ได้ทุกอย่างที่ต้องการ เตรียมแค่ตัวมาก็พอ!
ทุกวันนี้เวลาดูรูป เรายังนึกถึงวันแต่งงานอยู่เลยครับ เพราะรู้สึกว่าเพอร์เฟ็กต์ที่สุด อยากขอบคุณ พี่อ้อ เซลล์ของโรงแรมครับ เรียกว่าเป็นออแกไนซ์ส่วนตัวเลยก็ได้ ทั้งเรื่องช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ดนตรี แสงสี ห้องพัก อาหาร แม้แต่อุปกรณ์ขันหมาก เขาจัดการให้หมดเลยครับ เราเตรียมมาแต่ตัวและชุดเลย
ถ้าไม่มีพี่อ้อ พวกเราคงลำบากต้องวิ่งดูงานเองและกังวลว่างานจะออกมาแบบไหน แต่ด้วยความที่เขามีประสบการณ์ ทำให้มองขาดเลยครับ ว่างานเราต้องการอะไรบ้าง ขนาดตอน 4 ทุ่ม เซลล์ก็ยังไม่กลับ คอยดูแลจนกว่างานจะจบจริง ๆ ประทับใจมากครับ
คําแนะนําสําหรับบ่าวสาว
เลือกโรงแรมที่มีบริการครบ : การเลือกสถานที่จัดงานแต่งที่มีแพ็กเกจครอบคลุม ทั้งการตกแต่ง อาหาร อุปกรณ์ รวมถึงเซลล์ที่มืออาชีพ ให้คำแนะนำเรื่องร้านค้างานแต่งได้ จะทำให้ประหยัดเวลา บ่าวสาวไม่ต้องวิ่งวุ่นเอง จ่ายอย่างเดียวทุกอย่างจบ
พาผู้ใหญ่มาดูสถานที่ด้วยก็ดี : ถ้าอยากเพิ่มความมั่นใจ ให้พาครอบครัวบ่าวสาวมาดูสถานที่ด้วยเลย พอเห็นและได้พูดคุยกับเซลล์ จะทำให้ภาพในหัวชัด รับรองว่าผู้ใหญ่จะไว้ใจและสบายใจขึ้น
พักผ่อนให้เต็มที่ : ก่อนวันงานให้บ่าวสาวนอนให้พอ เข้าใจว่าทุกคู่จะต้องตื่นเต้นหรือเครียดกับการเตรียมงาน แต่เซลล์หรือแม่งานจะคอยช่วยดูแลและพยายามทำให้เราสบายใจที่สุด ดังนั้นพักให้เยอะจะได้มีแรงในวันจริงดีกว่า
Photographer : Penake Cinema & Photography