Bliston Suwan Park View Hotel and Residence สถานที่แต่งงานอินดอร์ ได้ฟีลสวน
เตยกับแทน(เจ้าบ่าว) จัดงานแบบฤกษ์สะดวก เพราะเราทั้งคู่เป็นหมอที่หาเวลาว่างตรงกันยากมากค่ะ พอได้วันแล้วก็เตรียมหาสถานที่ รุ่นพี่ที่สนิทเลยแนะนำให้เข้าเว็บ SabuyWedding เพราะมีข้อมูลเยอะ
เตยก็ลองเข้าไปดูโดยมีเป้าหมายในใจว่าจะหาสถานที่แนวสวนเพราะไม่ชอบโรงแรมจ๋าๆ แล้วได้เจอรีวิว Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residence(โรงแรม บลิสตัน สุวรรณ พาร์ควิว) ที่บ่าวสาวส่วนใหญ่พูดตรงกันว่า โรงแรมสวยอบอุ่น เซลล์คุยง่ายและทีมงานบริการดีจึงตัดสินใจไปดูเลยค่ะ
วันไปดูสถานที่จริงเราได้เจอคุณอ้อที่เป็นเซลล์พาสำรวจสถานที่ พร้อมช่วยอธิบายข้อมูล บอกปัญหาและทางแก้ปัญหาเบื้องต้น ตอนคุยกันรู้สึกถูกคอ ประกอบกับประสบการณ์ที่เขาอยู่แวดวงนี้มากว่า 10 ปี เราจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถฝากงานแต่งไว้กับคนนี้ได้
นอกจากนี้โรงแรมก็ให้บรรยากาศไม่ทางการเกินไป มีผนังกระจกใสรับแสงธรรมชาติและสามารถมองเห็นวิวสวนร่มรื่น ให้ความรู้สึกสบายตา แถมพื้นที่จัดงานอยู่โซนเดียวกันหมดสะดวกสบายมาก เราจึงเลือกที่นี่หลังจากคุยเสร็จเลยค่ะ
สีโรสโกลด์และแดงเบอร์กันดี สวยแพงแฝงความอบอุ่น
เราจัดงานแบบพิธีเช้าเลี้ยงเที่ยง โดยจะตกแต่งเป็นสไตล์สวน เน้นดอกไม้ แล้วเลือกใช้สีแดงเบอร์กันดีและโรสโกลด์มาเพิ่มสีสันเหมือนกันทั้ง 2 งานเลย เนื่องจากพื้นที่จัดงานอยู่โซนเดียวกันจึงไม่อยากแยกธีมให้แตกต่างค่ะ ซึ่งเมื่อออกมาจากลิฟต์ จะเจอโถงที่เรามีจัดโต๊ะลงทะเบียน มุมแกลอรี่ที่ได้นำภาพมาใส่กรอบทองให้ล้อไปกับลวดลายผนังของโรงแรมและร้อยคริสตัลเพิ่มความหรูหราค่ะ
ถัดมาเป็นห้องโถงกลางที่จะใช้ทำพิธีหมั้น พื้นที่ส่วนนี้ตอนเช้าจะวางชุดเฟอร์นิเจอร์กับเก้าอี้เรียงแถวสำหรับแขก 50 ตัว และด้วยผนังห้องด้านหนึ่งเป็นกระจกใส เห็นวิวด้านนอกสวยอยู่แล้ว เราจึงนำมาใช้เป็นฉากหลังสำหรับทำพิธี โดยจะไม่ได้ตกแต่งเยอะ แค่ประดับแจกันดอกไม้หลายขนาดเข้าไปค่ะ
ซึ่งบริเวณนี้พองานเช้าเสร็จก็จะจัดใหม่ ย้ายเฟอร์นิเจอร์ออกแล้วนำ Photo Booth กับ Backdrop เข้ามาแทนที่ โดยส่วน Backdrop เราจะทำเป็นพื้นสีขาวประดับดอกไม้ ติดป้ายชื่อบ่าวสาวที่ซ้อนด้านหลังด้วยไฟ LED ให้ดูมีมิติ และเสริมความวิบวับแวววาวด้วยการร้อยดิ้นเงินจนเต็มฉากหลังค่ะ
ส่วนในห้องฉลอง เราไม่เน้นตกแต่งเยอะเลยค่ะ เพราะตัวห้องก็สวยอยู่แล้ว บนเวทีเราใช้ผนังห้องเป็นฉากเลยแล้วติดชื่อบ่าวสาวเข้าไปกับตั้งแท่นวางดอกไม้ขนาบข้าง แล้วใกล้ๆ กันก็จะมีตั้งแชมเปญทาวเวอร์ไว้ ส่วนพื้นที่ด้านล่างก็ลงโต๊ะกลมสำหรับแขกและไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์ค่ะ
งานเรามีเลี้ยงอาหารตั้งแต่ช่วงเช้า จัดเป็นคอฟฟี่เบรก มีทั้งข้าวต้มทรงเครื่อง ขนมรองท้องอย่างครัวซองก์พันไส้กรอกเดนนิส แซนด์วิช และมีเครื่องดื่มเป็นกาแฟกับน้ำผลไม้ค่ะ ซึ่งทางโรงแรมมีห้องรับรองให้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องบอลรูมด้วย แขกสามารถไปนั่งทานสบายๆ ได้เลยค่ะ ส่วนมื้อฉลองเที่ยงเราจัดเลี้ยงเป็นบุฟเฟ่ต์ที่แขกสามารถไปตักอาหารเองได้ตามใจ แต่จะมีโต๊ะ VIP ที่ได้จัดพนักงานเสิร์ฟคอยดูแลค่ะ ซึ่งเมนูอาหารช่วงนี้จะมีปีกไก่ทอด ทอดมัน ยำปลาดุกฟู แกงเขียวหวาน ไก่ผัดพริกเผา ขนมไอติม ผลไม้และทับทิมกรอบ งานนี้อาหารอร่อยจนแขกชมเลยค่ะ(หัวเราะ)
‘ก้านดอกไม้หอม’ ของชำร่วยช่วยให้แขกผ่อนคลาย
เตยชอบก้านดอกไม้หอมหรือ AROMA DIFFUSER มากๆ ค่ะ มีติดบ้านตลอดไม่เคยขาด นอกจากนี้ยังมองว่าก้านดอกไม้หอมมีคุณสมบัติช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ เราอยากให้ทุกคนอารมณ์ดี จึงนำความชอบนี้มาเป็นของชำร่วย โดยเลือกกลิ่นเป็นลาเวนเดอร์ ซึ่งพอแจกไป มีแต่แขกขอเพิ่มค่ะ(หัวเราะ)
พิธีไม่ทางการ ได้ฟีลความสุขฉบับคนกันเอง
ช่วงนี้ยังมีเรื่องโควิด เราจึงไม่พลาดที่จะใส่ใจความปลอดภัยแขกที่มาร่วมงานด้วยการให้ตรวจเอทีเคก่อน โดยจะตั้งจุดตรวจอยู่ตรงลานจอดรถเลยค่ะ พอตรวจผ่านแล้วก็ขึ้นลิฟต์ตรงมางานได้เลย
ซึ่งกำหนดการพิธีช่วงเช้าจะเริ่มเวลา 8.30 น. เจ้าบ่าวจะใช้ระเบียงด้านนอกติดกับห้องบอลรูมตั้งขบวนแห่ขันหมากค่ะ แล้วเล่นเกมผ่านด่านประตูเงินประตูทองเพื่อเข้าไปทำพิธีในห้อง พิธีช่วงนี้ของเราไม่เชิงเป็นเจรจาสู่ขอนะคะ เพราะเราหมั้นกันมาได้สักพักแล้ว อารมณ์เป็นการบอกกล่าวทั่วไปมากกว่า แล้วพอเสร็จแล้วเจ้าบ่าวก็จะเดินมารับตัวเจ้าสาวที่นั่งรอยังระเบียงที่ตั้งขบวนขันหมากตอนแรกเพื่อไปทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวนและรดน้ำสังข์ค่ะ
พอมาถึงงานฉลองเที่ยง ตอนที่ได้เวลาทำพิธีก็จะเปิดวีดีโอพรีเซนเทชั่นก่อนที่จะเปิดตัวบ่าวสาวเข้างาน โดยตอนที่เดินไปยังเวทีจะมีเพื่อนมาโปรยกระดาษกลิตเตอร์ สี Rosegold ให้ด้วย แล้วในส่วนพิธีการบนเวที พิธีกรจะเชิญประธานซึ่งเป็นอาจารย์ที่เราสนิทมากล่าวคำอวยพร แล้วต่อด้วยสัมภาษณ์บ่าวสาวค่ะ
งานเราใช้การรินแชมเปญแทนการตัดเค้ก เพราะรู้สึกว่าได้ทำจริง ให้ฟีลเรียลกว่าใช้เค้กปลอม จริงๆ เราก็อยากได้เค้กจริงนะคะ แต่ขั้นตอนการเตรียมก็จะยุ่งยากไปอีก แล้วก็เคยได้ยินว่าการรินแชมเปญด้วยกันเปรียบเหมือนการประคับประคองชีวิตคู่ ซึ่งความหมายดี จึงเลือกไอเดียนี้เลยค่ะ
ช่วงโยนดอกไม้ เนื่องจากมีแขกผู้ใหญ่นั่งอยู่ใกล้หน้าเวที เราไม่อยากโยนดอกไม้ข้ามหัวก็เลยย้ายไปโยนตรงโถงด้านนอกแทน เสร็จแล้วถึงกลับไปขอบคุณแขกในห้องทานเลี้ยง และไปทำพิธีส่งตัวกันภายในครอบครัวที่ห้องพักด้านบนค่ะ
งานนี้เตยอยากขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในวันงาน อยากขอบคุณเจ้าบ่าวและครอบครัวที่เข้าใจสิ่งที่เตยอยากได้มาตลอด ไม่ขัด ไม่แย้ง ทำให้เตยจัดงานได้อย่างสบายใจ ไร้กังวลและเต็มไปด้วยโมเมนต์ดีๆ จากงาน การได้เห็นรอยยิ้มของทุกคน ทำให้เรามีความสุขมากค่ะ
ถ้าให้พูดถึงความชอบและประทับใจ อันดับแรกต้องยกให้ลักษณะการจัดห้อง รวมถึงโทนการตกแต่งของโรงแรมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดูธรรมชาติ งานเราแม้จะจัดในห้องแอร์ แต่พอมีผนังกระจกใส ก็ได้บรรยากาศแนวสวน สามารถมองวิวสบายตา แถมช่วยให้บ่าวสาวมีความผ่อนคลายมากขึ้นด้วยค่ะ ต่อมาเป็นแพ็กเกจที่ให้ห้องพัก Platinum Suite ด้วย ซึ่งห้องดี ถูกใจมาก ตัวห้องกว้างขวาง มีหลายส่วนฟังก์ชั่นใช้งานที่แบ่งแยกชัดเจน ขนาดแขกงานเรามาพักยังว่าที่นี่นอนสบายมากเลยค่ะ(หัวเราะ)
แล้วที่ต้องขอพูดถึงเลยคือเซลล์ค่ะ เขาน่ารักมาก คุยง่าย พยายามช่วยเหลือทุกอย่างจริงๆ ตอนส่งตัวยังคอยช่วยบอกบทว่าต้องทำอะไร วิธีการปูเตียงแบบไหนให้ด้วย(หัวเราะ) แล้วที่ชอบมากๆ คือบางทีเราสงสัยอะไร แค่อยากพิมพ์ไปถามไว้ก่อนเฉยๆ แต่เขากลับตอบทันที แม้เที่ยงคืนก็ยังตอบ ทำให้รู้สึกได้เลยว่าเขาทุ่มเท เราคิดถูกที่จัดงานที่นี่จริงๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ฤกษ์มงคลก็ได้ แต่ฤกษ์สะดวกก็ดี : ใครไม่ค่อยมีเวลา การเลือกฤกษ์สะดวกก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เพราะเราสามารถเลือกวันที่คาดว่าหลายคนจะสามารถมาร่วมงานได้ รวมถึงทำให้เราไม่ต้องไปแย่งจองคิวซัพพลายเออร์กับคู่อื่นด้วยค่ะ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residenceช่างภาพ วิดีโอ:
Note Wannasin