หลังจากได้ฤกษ์แต่งงาน เราก็มองหาสถานที่ ซึ่งกี้เป็นผู้หญิงที่ติดโซเชียล ก็จะดูและลิสต์เอาไว้ 5 ที่ที่เราชอบ ส่วนพี่เบสท์ (เจ้าบ่าว) เป็นแนวผู้ชายจ๋า ๆ ที่ไม่ดีเทลเยอะ ชอบอะไรง่าย ๆ และเป็นสายมู เขาเชื่อว่าทำอะไรใกล้น้ำแล้วจะประสบความสำเร็จ พอไปดู Capella Bangkok (โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ) เป็นที่แรก ก็เลือกเลย เพราะอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีความหรูหรา อบอุ่น ห้องบอลรูมแขวนแชนเดอเลียร์ผีเสื้อห้อยระย้า แทบไม่ต้องตกแต่งอะไรก็ดูดี น่าจะเหมาะกับสไตล์เราค่ะ
งานสวยหรูในโทนอบอุ่น พร้อมกิมมิกสะท้อนตัวตนบ่าวสาว
หลังจากได้สถานที่แล้ว เซลล์ก็แนะนำทีมตกแต่งให้ แต่พอเข้าไปดูผลงานแล้วยังไม่ตรงกับคอนเซ็ปต์ เราเลยขอเลือกทีมเอง จนกระทั่งลงตัวที่ Graphic by Sandy โดยเราอยากได้ธีมงานที่ดูหรู เน้นดีไซน์ ไม่เน้นดอกไม้ ทางพี่ลูกไม้ก็ตีโจทย์จากเรฟเฟอเรนซ์ที่ส่งไปให้ บวกกับดูคาแรคเตอร์และสไตล์การแต่งตัวของเราทั้งคู่ จึงออกแบบการตกแต่งเป็นโครงสร้างสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่ดูมีกิมมิกแปลกตา ไม่ซ้ำใคร ผสมกับ mirror เงาวาว เพื่อเล่นแสงไฟค่ะ
ในห้องที่ทำพิธีหมั้น เราแค่ตกแต่งดอกไม้ 2 มุม บริเวณโต๊ะพิธีการ ส่วนงานเย็นจะเพิ่มความหรูหราขึ้นมา อย่างแบ็คดรอปพยายามไม่ให้เด่นเกินบ่าวสาว โดยใช้ฉากสีเบจตัดกับสีทอง วางไอเทมสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสอดประสานไปมา รับกับดอกไม้สีขาวและใบไม้พ่นสีทอง มีสีน้ำตาลเข้ามาเบรค เพื่อไม่ให้ดูหวานเกินไปด้วยค่ะ
บริเวณโถงทางเดิน เราจัดเป็นโซน Walkway และแกลเลอรี โดยวางแท่นเฉียง ๆ และตั้งรูปพรีเวดดิ้ง 4 รูป ส่วนจุดลงทะเบียนก็มีดอกไม้ตั้งโต๊ะนิดหน่อยค่ะ
ภายในห้องบอลรูม เลือกตกแต่งเวทีกับจุดตัดเค้ก โดยดีไซน์จะลิงก์กันหมดคือฉากสีขาว ห้อยด้วยโครงทรงสี่เหลี่ยมสีทอง ล้อไปกับดอกไม้ ตรงเค้กประดับผีเสื้อด้วยค่ะ จะได้เข้ากับแชนเดอเลียร์ด้านบน ทำให้ดูกลมกลืน ไม่น้อยหรือเว่อร์จนเกินไป
พิธีการเช้าสุดซาบซึ้ง งานฉลองจัดเต็ม สุขสนุกทุกโมเมนต์
ช่วงงานเช้าเป็นพิธีไทยล้วนค่ะ พอเราแต่งตัวเสร็จก็ออกไปถ่ายรูปตรง backyard แล้วก็ขึ้นไปทำพิธีสงฆ์ ซึ่งรู้สึกว่าเป็นมงคลมาก ๆ เพราะมีครอบครัว ญาติ ๆ และได้ทำบุญร่วมกัน
พอพิธีสงฆ์เสร็จปุ๊บ กี้ก็ไปเปลี่ยนชุดเพื่อเข้าพิธีหมั้น โดยพี่เบสท์ยกขบวนขันหมากมาสู่ขอ รับตัวเจ้าสาวที่นั่งรออยู่ห้อง Stella ที่มีนกยูง แล้วจึงเดินกลับเข้าไปนับสินสอด สวมแหวน แล้วก็รดน้ำสังข์ค่ะ ตอนเช้าแทบจะไม่มีภาพสวย ๆ สักเท่าไร เพราะ emotion เยอะมาก ปล่อยโฮตั้งแต่รดน้ำคนแรกยันคนสุดท้ายเลยค่ะ พอพิธีจบโรงแรมก็เสิร์ฟก๋วยจั๊บ ซึ่งมีแต่คนชมว่าอร่อยมากค่ะ
มาถึงงานช่วงเย็น เราเริ่มจากยืนถ่ายรูปหน้าแบ็คดรอปและต้อนรับแขกราว 1,000 คน ซึ่งเยอะเกินคาด หลังจากแขกทยอยมาเกือบครบแล้ว เราก็เปิดตัวไปกับคุณพ่อคุณแม่ โดยมีพี่เบสท์รอรับอยู่ตรงกลาง แล้วเดินขึ้นเวทีด้วยกัน จากนั้นพิธีกรก็พูดคุยกับเรา โดยได้พี่แพท ณปภา มาเป็นพิธีกรฝ่ายหญิง และมิสเตอร์ป๋อง พินิจ พลขัน เป็นพิธีกรฝ่ายชาย เพราะพี่เบสท์อยู่วงการมวยค่ะ ทั้งคู่เอนเตอร์เทนแขกได้ดีมาก ช่วยให้งานสนุกขึ้นเลย
หลังจากนั้นก็เชิญประธานทั้งหมด 3 ท่านขึ้นมากล่าวอวยพรให้ค่ะ คนแรกเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพมานาน คือท่านชัชวาล คงอุดม หรือที่รู้จักกันในชื่อ ชัช เตาปูนค่ะ ซึ่งเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ และอดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ท่านต่อมา พล.อ.ธนภัทร ณิยกูล รองปลัดกระทรวงกลาโหม และท่านสุดท้าย พล.ต.ต.ชัยพัชร์ ศรีประเสริฐ รองผู้บังคับการจเรตำรวจ ก็คือครบเลย ทั้งทหาร ตำรวจ นักการเมืองค่ะ
ต่อด้วยช่วงที่ทุกคนรอคอย อย่างการเล่นเกมทายคำถาม Kahoots 10 ข้อ ซึ่งก่อนวันงาน เราได้โพสต์เฟซบุ๊กว่าจะมีเกมให้เล่น แขกทุกท่านจึงทำการบ้านอย่างดีและให้ความร่วมมือมาก ๆ ต้องบอกว่าเราเคยไปงานอื่นแล้วรู้สึกว่าสายตาแขกไม่ค่อยจับจ้องไปบนเวที ดังนั้นพอเป็นงานตัวเอง เลยอยากให้มีกิจกรรมร่วมกันและแจกรางวัลที่มีมูลค่าค่ะ โดยผู้ที่ตอบถูกเยอะและไวที่สุดก็รับทอง 1 บาทไปค่ะ
พิธีต่อไปคือโยนดอกไม้ ซึ่งก็เป็นอีกพิธีที่กี้รู้สึกว่าคนไม่กล้าออกมา เราก็เลยแจกเซ็ตของขวัญจาก Chanel เพื่อบิลด์ให้แขกออกมาร่วมชิงดอกไม้ของเราค่ะ จากนั้นถึงจะคัดเค้ก โดยมีเซอร์ไพรส์คือ พี่ปั่น ไพบูลเกียรติ ออกมาร้องเพลง 'รักนิรันดร์' ให้สด ๆ เรียกเสียงฮือฮาได้ทั้งห้อง เราทั้งคู่ก็จอยมาก โยกตัวร้องตลอดเพลง จนช่างภาพต้องบอกให้อยู่นิ่ง ๆ บ้าง เลยได้โมเมนต์ที่ค่อนข้างเรียล ภาพอ้าปากเยอะมากค่ะ (หัวเราะ)
จากนั้นเราก็ไปเปลี่ยนชุดไปเป็น After party โดยได้ทีมครูกั้ง minizize มาเต้นให้ เนื่องจากเจ้าสาวชื่อกี้ เราก็เลยแดนซ์เพลง ‘ธาตุทองซาวด์’ ไปเลยค่ะ เสร็จแล้วก็แจกแอลกอฮอล์ ต่อด้วยโชว์จากพี่ปู Blackhead, พี่แนป Retrospect และดีเจปิดท้ายค่ะ เราพยายามทำพิธีการให้กระชับ เพราะรู้ว่าแขกเราสายปาร์ตี้ ซึ่งโรงแรมก็อะลุ่มอล่วยเรื่องเวลาให้จนถึงตี 1 ครึ่งเลยค่ะ
เลือกทีมที่ใช่ ได้งานตรงใจในสไตล์เป็นตัวเอง
โชคดีที่ทุกทีมที่เราตัดสินใจเลือกมาเป็นทีมที่ใช่จริง ๆ อยากขอบคุณทุกคน ตั้งแต่เลขาที่คอยให้คำแนะนำ เวดดิ้งแพลนเนอร์ที่ดีลทีมงานได้ตรงกับความต้องการ ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า เราเลือกเบอร์สุด ชุดแต่งงานก็เอาทุกแบรนด์ที่ชอบอย่างละชุด จะได้ไม่เสียดายทีหลังค่ะ โดยเฉพาะทีมตกแต่ง เหมือนเขามานั่งในใจเรา มองคาแรกเตอร์บ่าวสาวได้ขาด เรียกว่าดราฟต์แรกก็ผ่านเลยค่ะ ด้วยประสบการณ์การทำงานของทุกทีม ทำให้ทุกอย่างออกมาเพอร์เฟ็กต์มาก ๆ เราได้รับคำชมตั้งแต่จบงานมาจนถึงวันนี้ ถ้าย้อนเวลาไปได้ ก็ไม่อยากแก้ไขอะไรเลยค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
งานแต่งมีครั้งเดียว เลือกทุกอย่างให้เป็นตัวเองที่สุด : งานแต่งที่โฟลว์นั่นเพราะเป็นเราที่สุด ดังนั้นควรเลือกทีมที่ถูกใจและถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัดเจ็ท สไตล์ การพูดคุยรู้เรื่องกันตั้งแต่ครั้งแรก อะไรที่เราเลือกมาแล้วมักจะดีเสมอ ส่วนอะไรที่มีความเอ๊ะ ให้ตัดออกไปเลย ไม่อย่างนั้นจะต้องมาตามแก้ปัญหาทีหลัง
อย่ารีบตัดสินใจเลือกชุดแต่งงาน : บางครั้งเราแค่ชอบแบรนด์นั้น แต่ไม่รู้ว่าจะเข้ากับตัวเองและคอนเซ็ปต์งานหรือเปล่า ดังนั้นต้องทำการบ้านและนัดลองชุดเยอะ ๆ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจากคำขายหรือราคาโปรแรง ๆ จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในนาทีสุดท้าย และถ้าได้ชุดที่ใช่แล้ว ต้องรีบมูฟออน แล้วไปดูส่วนอื่น
แบ่งหน้าที่ให้เคลียร์ : ส่วนใหญ่เจ้าบ่าวจะไม่ค่อยดีเทล ด้วยนิสัยผู้ชาย ๆ ทำให้บางครั้งสรุปกันไม่ได้ ดังนั้นต้องแบ่งหน้าที่ให้ชัด เช่น เจ้าสาวเป็นฝ่ายตัดสินใจไปเลย เจ้าบ่าวจ่ายเงินอย่างเดียว ซึ่งพองานออกมาดี ทุกอย่างก็จะแฮปปี้