PaR Wedding Planner ตัวช่วยแห่งความสบายใจให้บ่าวสาว เนรมิตงานสวย Glam ในทุกมุมมอง
จ๋ากับภู (เจ้าบ่าว) คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าเราแต่งงานจะใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ค่ะ เพราะตอนที่ไปงานแต่งเพื่อนสนิทเมื่อ 2 ปีก่อน เราเห็นเพื่อนใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ คือ พี่เส่ย PaR Wedding Planner (พาร์ เวดดิ้ง) ในช่วงเตรียมงาน เพื่อนเล่าตลอดว่าพี่เขาดียังไง มีความเป็นมืออาชีพแค่ไหน ประกอบกับเราเห็นว่างานแต่งเพื่อนทุกอย่างดูราบรื่นดี เมื่อถึงคิวที่เราจะได้แต่งงาน เราจึงนึกถึงพี่เส่ยทันที และตั้งใจเลือกโดยไม่ดูที่อื่นเลยค่ะ
เมื่อได้เวดดิ้งแพลนเนอร์แล้ว หลังจากนั้นเราก็ไปดูสถานที่ด้วยกัน โดยเลือกดู Waldorf Astoria Bangkok เป็นที่แรก เพราะได้ยินหลายคนชมว่าโรงแรมนี้สวยและอาหารอร่อย หลังจาก คุณกิ๊ฟ เซลล์ของโรงแรมพาทัวร์ห้องจัดงานต่าง ๆ และห้องบอลรูมที่รองรับกับจำนวนแขกได้ ภาพรวมของโรงแรมก็ทำให้เราตัดสินใจแต่งงานที่นี่ค่ะ
งานหมั้นแสนละมุนด้วยโทนสีซอฟต์สบายตา
เราชอบโทนสีส้มพีชและชมพู จึงเอาธีมนี้มาตกแต่งทั้งงานหมั้นและงานฉลองค่ะ ซึ่งงานหมั้นเราปรึกษาพี่เส่ยว่า อยากให้มีดอกไม้ยักษ์แซมดอกไม้จริง พี่เส่ยจึงเนรมิตออกมาได้ถูกใจมากค่ะ ทั้งตรงจุดรับตัวตรงบันไดวนและบนเวทีในห้องจัดงาน มีคีย์หลักเป็นโครงเหล็กดัดเป็นกลีบดอกไม้ ตรงกลางประดับป้ายชื่อ รอบข้างมีดอกไม้ยักษ์หลากสีและพุ่มดอกไม้จริงค่ะ
กำหนดการพิธีหมั้นจีนจะเริ่มช่วงเที่ยง เราไม่อยากให้พิธีเยิ่นเย้อเกินไป จึงตัดแห่ขันหมากออกแล้วเริ่มด้วยรับตัวเจ้าสาวเลยค่ะ จ๋าจะนั่งรอภูอยู่ตรงชานพักบันไดวนที่ขึ้นไปห้องบอลรูม หลังภูมารับตัวเรียบร้อย เราก็ขึ้นไปทำพิธีสวมแหวน ทานขนมอี๋ ยกน้ำชา จากนั้นเข้าสู่คิวส่งตัวเจ้าสาวเป็นอันจบพิธีค่ะ
ในช่วงหมั้นเรามีอาหารเสิร์ฟให้แขกได้ทานตั้งแต่เริ่มไปจนจบงานด้วย แขกสามารถแวะเวียนไปทาน Food Station ของทางโรงแรม เช่น ขาหมูแฮมและข้าวหน้าไก่ได้ค่ะ
เนรมิตงานสวยหรูแต่คุ้มค่า อลังการด้วยจอ LED และกิมมิกเทศกาลญี่ปุ่น
แม้ว่าเราจะใช้โทนสีเดิมในช่วงงานฉลอง แต่การตกแต่งจะแตกต่างกันค่ะ เราพูดคุยกับทางครอบครัวด้วย ซึ่งคุณแม่อยากให้งานออกมาดูหรูหรา แขกเดินเข้ามาต้องร้องว้าว ประกอบกับท่านอยากใช้ของตกแต่งที่สามารถรียูสได้ด้วย บางจุดเราเลยเลือกใช้โครงเหล็กดัด เพราะจบงานแล้วเอาไปใช้ต่อได้จริง ๆ ค่ะ
เราชอบที่พี่เส่ยช่วยออกไอเดียเรื่องการตกแต่งเยอะมาก หลังจากบรีฟไปคร่าว ๆ เรื่องธีมสีและความหรูหรา แต่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงถึงดีเทลการตกแต่ง พี่เส่ยก็ส่งแบบมาให้เลือกว่าเราชอบสไตล์ไหน เพื่อช่วยดึงความต้องการของเราออกมาให้ได้มากที่สุดค่ะ
พอเห็นการตกแต่งทั้งหมดในงานก็รู้สึกว่าสวยถูกใจมากค่ะ ตั้งแต่โถงรับรองที่ด้านบนทำเป็นโครงเหล็กโค้งครึ่งวงกลม เรียงด้วยแท่งคริสตัลให้ดูแวววาวและหรูหรา ส่วนผนังทั้งสองข้างทำเป็นบอร์ดสีชมพู ตกแต่งดอกไม้และภาพบ่าวสาว เราทำฉากชิดผนังเพราะไม่อยากให้กินพื้นที่มากนัก และทางเดินจะได้ดูโฟลว์ขึ้นด้วยค่ะ
ผ่านจุดนี้ไปจะเห็นแบ็คดรอปถ่ายภาพ ออกแบบเล่นดีเทลตรงฉาก ทั้งเซาะร่อง ทำลายคลื่น และทำเป็นซุ้มโค้ง แต่งดอกไม้อัดแน่นเป็นแผงทั้ง 2 ฝั่ง รวมถึงเสริมไฟดวงกลมด้วยค่ะ
ภายในห้องบอลรูม 'แมกโนเลีย' พี่เส่ยนำจอ LED เข้ามาเสริมเพื่อสร้างลูกเล่นที่หลากหลาย ซึ่งดีตรงที่ไม่ต้องใช้ดอกไม้ตกแต่งทั้งหมดด้วยค่ะ ฉากโมชั่นกราฟิกหลักจะใช้เป็นกราฟิกแฟนตาซีสีม่วง-ชมพูและมีชื่อบ่าวสาวตรงกลางค่ะ บอกตามตรงว่า ตอนที่เขาส่งคลิปโมชั่นกราฟิกมาให้ดู เราไม่เก็ตเลยว่าถ้าอยู่ในจอจะเป็นยังไง แต่พอได้เห็นฉากในจอตอนรันทรู บอกเลยว่าสวยอลังการสมใจมากค่ะ
อีกความพิเศษที่เราชอบมาก คือ ความใส่ใจของพี่เส่ย หลังจากเขาเห็นในไอจีว่าเราไปขอแต่งงานกันที่ญี่ปุ่น เขาเลยดึงเทศกาลยอดนิยมอย่างเทศกาลทานาบาตะ ที่ผู้คนจะเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษแล้วนำไปแขวนกับกิ่งไผ่ เพื่ออธิษฐานขอพรจากดวงดาว มาทำเป็นพุ่มดอกไม้ระย้าสีชมพูขนาดใหญ่ แต่งด้วยคริสตัล และการ์ดที่เขียนอวยพรแขวนไว้เหนือเวทีค่ะ
งานฉลองของเรามีแขกมาร่วมงานประมาณ 250-300 ท่าน ซึ่งเราได้มอบของชำร่วยให้เป็นแท็กกระเป๋าเดินทางค่ะ
กำหนดการงานฉลองเริ่มด้วยคิวเปิดตัวที่ภูอยู่บนเวที แล้วเดินลงมาหาจ๋าที่กำลังเดินเข้าไปในห้องเพื่อเจอกันตรงกลาง จากนั้นเราจะเดินขึ้นเวทีด้วยกันค่ะ โดยส่วนตัวเราสองคนไม่ชอบพิธีการมากนัก เลยมีแค่การเชิญประธานมากล่าวคำอวยพร สัมภาษณ์บ่าวสาวสั้น ๆ เพื่อน ๆ พูดความในใจและอวยพร ต่อด้วยตัดเค้กและโยนช่อดอกไม้ค่ะ
ระหว่างคิวสำคัญ เช่น เปิดตัว ตัดเค้ก หรือโยนดอกไม้ จะใช้เอฟเฟ็กต์พลุไพโรด้วย ยิ่งทำให้พิธีดูอลังการมากขึ้นค่ะ
เราตั้งใจจัดเลี้ยงโต๊ะจีน เพราะอยากให้ทุกคนมีที่นั่งและได้เอ็นจอยกับอาหาร ซึ่งเมนูโต๊ะจีนของวอลดอร์ฟแอสโทเรียเสิร์ฟอาหารจีนแบบ Individual Serve ยิ่งสอดคล้องกับธีมงานที่ต้องการความหรูหรา แถมรสชาติอาหารยังทำให้แขกประทับใจได้มากเลยค่ะ โดยเฉพาะเมนูของหวาน พุดดิ้งพุทราจีน ที่หลายคนบอกว่าหน้าตากับชื่ออาหารดูไม่น่าจะเข้ากัน แต่ทุกคนชมว่าอร่อยค่ะ
บ่าวสาวประทับใจทีมงานดี สร้างสรรค์งานได้สมบูรณ์แบบ
เราได้รับฟีดแบ็กจากแขกว่าชอบงานเราที่สวย บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่น ส่วนเราเองก็ปลื้มที่แขกทุกเพศทุกวัยอยู่กันจนจบ ตอนแรกเราทั้งคู่แอบกังวลว่าครอบครัวจะชอบงานไหม เพราะถ้าเรารู้สึกดี แต่พวกท่านไม่โอเค เราก็คงไม่มีความสุข แต่ผลปรากฏว่าครอบครัวเราชอบกันมาก เราเลยยิ่งดีใจค่ะ
เราต้องขอบคุณพี่เส่ยและทีมงาน ตลอดจนขอบคุณตัวเองที่เลือกทีมงานที่ถูกต้องตั้งแต่แรก ทุกอย่างเลยออกมาเพอร์เฟกต์ไปหมด ประทับใจตั้งแต่การตกแต่งที่เขาดึงสิ่งที่เป็นนามธรรมออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างสวยงาม อีกทั้งชอบในความละเอียดและใส่ใจดีเทลเล็ก ๆ ของพี่เส่ย ทั้งไปดูทุกอย่างกับเราทุกที่ ตอนเลือกชุดบ่าวสาวเขาก็แนะนำว่าควรแก้ไขแพทเทิร์นเพื่อให้ดูสวยงาม หรือวันแต่งงานก็คอยดูว่าตกหล่นอะไรไหม รองเท้ากัดก็หาแผ่นแปะมาให้ค่ะ
นอกจากนี้ เขายังใส่ใจความรู้สึกเราในช่วงเตรียมแต่งงาน ที่เราต้องคุมน้ำหนักและบ่นอยากกินไก่ทอด เขาก็บอกว่าหลังจบงานจะเตรียมไว้ให้ ซึ่งพอจบงาน เราก็เห็นไก่ทอดจริง ๆ ค่ะ
ไม่ใช่แค่บ่าวสาวที่พี่เส่ยดูแลดีเท่านั้น แต่ทีม Par Wedding Planner ยังดูแลแขกและครอบครัวของเราเป็นอย่างดีด้วยค่ะ อย่างเช่นแขกบางท่านอายุเยอะ เดินเหินไม่สะดวก ก็มีทีมงานอำนวยความสะดวก พยุงขึ้นบันไดค่ะ เรารู้สึกว่างานวันนั้นมีแต่ความประทับใจ นึกย้อนกลับไปกี่ครั้งก็ไม่มีอะไรให้นึกเสียดายหรือติดค้างในใจเลยค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
อยากสบายใจ ใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ : ส่วนตัวมองว่าจะไม่ใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ก็ได้ แต่ถ้าใช้ก็จะทำให้เราอุ่นใจมากกว่า เพราะเขามีประสบการณ์จัดงานแต่งงานให้บ่าวสาวมาแล้วหลายคู่ ความมืออาชีพของทีมงานจะช่วยสร้างความสบายใจ และทำให้พิธีการราบรื่นขึ้น
ต้องเตรียมใจว่ามีงบแฝง : หากบ่าวสาวกำหนดงบไว้ในใจแล้ว อยากให้เตรียมงบสำรองไว้ด้วย เพราะอาจมีค่าใช้จ่ายที่เราต้องบวกเพิ่มอย่างน้อย 20% อย่างการเช่าชุดเจ้าสาวที่อาจมีค่าอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าบริการช่วยแต่งตัว ซึ่งบางทีเราไม่รู้มาก่อน การเผื่องบสำรองจะทำให้เราสามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่เครียดเกินไป
การแต่งงานเป็นเรื่องของครอบครัวด้วย : การแต่งงานเปรียบเหมือนการรวมตัวของสองครอบครัวที่มาจากต่างบ้าน ต่างวัฒนธรรมกัน เราต้องทำความเข้าใจว่าไม่มีทางที่สองฝั่งจะเห็นตรงกัน บางอย่างอาจไม่ได้ตามความต้องการเรา 100% เราควรปรับตัว หาทางแก้ปัญหา หรือประนีประนอมกัน เพื่อให้ทั้งความรู้สึกบ่าวสาวและครอบครัวสองฝั่งไปด้วยกันได้อย่างราบรื่น
เลือกช่างภาพจากโทนสีและสไตล์ที่เราชอบ : ช่างภาพทุกทีมมีสไตล์ในการถ่ายภาพและการแต่งสีที่ต่างกัน อยากให้บ่าวสาวดูให้เยอะว่าชอบแบบไหน เช่น โทนอาร์ต สีสด สีไบร์ทฟีลฟุ้ง ๆ หากเราเลือกทั้งมู้ดและโทนสีภาพที่ถูกใจตั้งแต่แรก เราจะแทบไม่ต้องบรีฟหรือบอกอะไรเยอะเลยค่ะ
Photographer : Panistro