Rosewood Bangkok สถานที่จัดงานแต่งสวยหรู พร้อมเมนูจัดเลี้ยงจากห้องอาหารจีนหนานเป่ย ที่การันตีความอร่อยด้วยมิชลินไกด์
อันดับแรกในการหาสถานที่จัดงานของเตยกับสแตน (เจ้าบ่าว) คือห้องจัดงานที่รองรับจำนวนแขกราว 150 ท่านได้พอดี ต่อมาโรงแรมนั้นต้องอาหารอร่อย เพราะอยากให้แขกได้เอ็นจอยกับอาหารรสชาติถูกปากถูกใจค่ะ รวมถึงโลเคชั่นตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติด BTS สามารถเดินทางได้สะดวก เพราะมีแขกมาจากต่างประเทศด้วยค่ะ ซึ่งทั้งหมดที่เราต้องการอยู่ใน Rosewood Bangkok (โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ) หมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาหาร ห้องอาหาร Nan Bei ของที่นี่ได้ Michelin Guide เลยทำให้เรามั่นใจได้ว่าอาหารที่จะเสิร์ฟในงานอร่อยแน่นอนค่ะ
ตกแต่งธีมแดง-น้ำเงินสุดเก๋ กับลายพิมพ์ดอกไม้สไตล์ Modern Chinese
เราชัดเจนตั้งแต่แรกว่าอยากให้การตกแต่งงานดูมีความเป็นจีนร่วมสมัย จึงเลือกตกแต่งในสไตล์ Modern Chinese ยืนพื้นด้วยสีแดงและน้ำเงินที่เราสองคนชอบ อีกคีย์สำคัญคือลายพิมพ์ดอกไม้ ที่ยึดแพทเทิร์นมาจากการ์ดแต่งงานค่ะ
เริ่มจากด้านนอกจะมีแกลเลอรีบ่าวสาวและแบ็คดรอปถ่ายภาพ ที่มีความแตกต่างตรงช่วงงานเช้าจะมีแค่ฉากลายพิมพ์ดอกไม้และประตูบานเฟี้ยมสีแดงสด จัดวางอย่างมีดีไซน์ พอถึงช่วงงานเลี้ยงฉลอง ทางทีมตกแต่งค่อยเพิ่มพุ่มดอกไม้เข้าไปค่ะ เราชอบตรงที่เขาใช้ความครีเอทีฟ เพิ่มนิด ลดหน่อย ก็ดูเก๋ขึ้นได้ค่ะ
สำหรับห้องจัดงาน เราใช้ห้องเดิมทั้งในงานหมั้นและฉลอง โดยสัดส่วนแขกมีจำนวนไม่ต่างกันมาก เลยไม่จำเป็นต้องกั้นพาร์ทิชั่นเพื่อลดขนาดห้องค่ะ พอจัดงานห้องเดียวกัน ตัวการตกแต่งเราใช้โครงฉากดีไซน์และวางตำแหน่งเดิม เพียงแต่จะเปลี่ยนสีฉากและลายพิมพ์ดอกไม้ค่ะ โดยเตยจะดูสัดส่วนความเหมาะสมของการใช้สี อย่างงานเช้า เราใช้พื้นฉากสีขาว แต่งลายพิมพ์สีน้ำเงินไล่เฉดฟ้า ดอกไม้เน้นสีแดงและขาว พร้อมผ้าม่านสีทองเพื่อให้ดูสว่าง เข้ากับงานช่วงเช้า
ส่วนงานเย็นเลือกใช้ฉากพื้นสีน้ำเงิน แต่งลายพิมพ์สีฟ้าอ่อน ตกแต่งด้วยพุ่มดอกไม้สีแดง เปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีน้ำเงิน และเติมโลโก้สีทองเข้าไปให้ดูหรูและเหมาะสมกับงานกลางคืนยิ่งขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ บนเวที เรามีโต๊ะของบ่าวสาวด้วยค่ะ เพราะตั้งใจว่าจะนั่งทานข้าวไปพร้อม ๆ กับแขกเลย ส่วนด้านล่างจะจัดโต๊ะ Long table แบบเต็มพื้นที่รวม 120 ที่นั่งค่ะ
เลือกจัดพิธีไทยผสมจีน อบอวลด้วยรักและความอบอุ่น
ด้วยความที่เตยแต่งงานกับสแตน ซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย ครอบครัวเราสองคนจึงเห็นตรงกันว่าอยากให้มีพิธีไทยด้วย จะได้เห็นเสน่ห์ของการแต่งงานตามวัฒนธรรมไทย อีกทั้งตัวสแตนก็อยากแห่ขันหมาก เล่นเกมกั้นประตูเงินประตูทองด้วยค่ะ เพราะเขาเคยเห็นในโซเชียลมาก่อน
ช่วงเช้าเรามีทั้งใส่บาตร ทำพิธีสงฆ์ หลังจากนั้นเตยจะเปลี่ยนเป็นชุดหมั้นจีนสีแดงค่ะ โดยสแตนจะตั้งขบวนขันหมากแบบไทย และเดินผ่านด่านประตูเงินประตูทอง เรียบร้อยแล้วก็ไปเจรจาสู่ขอกับญาติผู้ใหญ่ จากนั้นเตยจะขึ้นมานั่งรอชั้น 9 โซนสระว่ายน้ำของโรงแรม ซึ่งเป็นจุดรับตัวเจ้าสาว เราอยากได้แสงธรรมชาติและวิวของโรงแรมก็สวยอยู่แล้วด้วยค่ะ
เมื่อรับเตยเสร็จแล้ว เราก็กลับมามอบสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๋ ยกน้ำชา แล้วถึงขึ้นไปทำพิธีส่งตัวที่ห้องพัก โดยยึดธรรมเนียมของชาวมาเลเซียที่ให้เด็กกระโดดขึ้นเตียงก่อน เปรียบเสมือนคำอวยพรให้มีลูกไว ๆ ค่ะ
เรียบร้อยแล้วเตยก็กลับไปใส่ชุดไทยอีกครั้ง เพื่อมารดน้ำสังข์ปิดท้ายค่ะ ในช่วงเช้าเรามีของชำร่วยให้แขกด้วยค่ะ เป็นถุงผ้าลายดอกไม้ ข้างในใส่บิสกิต พร้อมด้วยการจัดเลี้ยงเมนูบุฟเฟ่ต์ ซึ่งแขกชอบอาหารของโรงแรมมากค่ะ
มาถึงช่วงงานฉลอง ก่อนเริ่มพิธีการ เราให้แขกลงทะเบียนและรับของชำร่วยเป็น Set ที่รองแก้วฉลุลายจีน รวมถึงสามารถถ่ายโฟโต้บูธก่อนได้ค่ะ จากนั้นก็เปิดวีดิโอพรีเซนเทชั่น ตามด้วยเปิดตัวบ่าวสาว พอเดินขึ้นเวทีไปนั่งที่โต๊ะของเรา ก็จะเชิญคุณพ่อมาเป็นประธานในการกล่าวคำอวยพรค่ะ เราอยากให้งานช่วงนี้ดูชิลและอบอุ่น แขกสามารถทานอาหารไปพร้อมกับพิธีการได้ด้วย เมื่อคุณพ่อกล่าวจบแล้ว ถึงให้เพื่อน ๆ และตัวแทนของครอบครัวเรามาพูด Speech รวม 8 ท่านค่ะ
เมื่อเรียบร้อยแล้ว เราจะไปตัดเค้กและโยนดอกไม้ 1 ช่อ ตามธรรมเนียม ส่วนอีก 1 ช่อเราตั้งใจมอบให้เพื่อนสนิทค่ะ หลังจากนี้เป็นช่วง After party ที่เแขกสามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงบรรเลงจากวงดนตรี โดยที่ยังทานอาหารต่อได้ค่ะ เมนูที่เราเลือกเป็นอาหารจีนแบบฟูลคอร์ส เช่น บะหมี่เป่าฮื้อ ปลาหิมะนึ่ง หมูกรอบ ขนมเค้กค่ะ ต้องบอกว่าแขกทุกคนชมเยอะมากว่ารสชาติดีทุกเมนู ซึ่งคู่เราก็คิดเหมือนกัน จนต้องหาโอกาสไปกินนอกรอบกันเองอีกครั้งค่ะ
บ่าวสาวมีแต่รอยยิ้ม อิ่มเอมใจ งานสวย มู้ดดีสุด ๆ
สแตนประทับใจช่วงพิธีหมั้นมาก เพราะสนุกและมีสีสัน มีหลายอย่างที่เขาไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน เช่น การกั้นประตูเงิน ประตูทองหลายชั้น ๆ สิ่งสำคัญเขาชอบอาหารคาวและเบเกอรี่ของที่นี่ ฟีดแบ็คของแขกก็ชื่นชอบกันเยอะ สแตนถึงขั้นชมแล้วชมอีกว่าอาหารที่นี่อร่อยจริง ๆ ค่ะ
นอกจากอาหาร เราดีใจที่แขกชอบบรรยากาศงาน ยิ่งพอจัดห้องเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องวุ่นวายย้ายห้องและได้ทุกอย่างที่จัดสรรลงตัวค่ะ ส่วนทีมงานประทับใจทุกทีมเลย ทั้งทีมตกแต่งที่ทำดีกว่าทีคิดไว้ คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไปมากค่ะ ช่างภาพ ออแกไนซ์ รันคิว วงดนตรีแจ๊ส ไลท์แอนด์ซาวนด์ พิธีกรสองภาษา ช่างแต่งหน้า ไปจนถึงโฟโต้บูธ ซึ่งบางส่วนก็ได้มาจาก Sabuywedding ค่ะ เมื่อทีมงานดี เลยช่วยลดความกังวลไปได้มากค่ะ
สุดท้าย เราชื่นชมบริการของโรงแรมที่เซอร์วิสมายด์ดี โดยเฉพาะคุณพิมพ์ เซลล์ที่ช่วยเหลือดีมาก ตั้งแต่ช่วงเตรียมงานจนถึงวันแต่งงาน ทำให้วันแต่งงานของเรามีแต่เรื่องราวประทับใจค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
เลือกสิ่งที่เราชอบ : อยากให้บ่าวสาวสื่อสารให้เคลียร์ตั้งแต่ต้น ว่าแต่ละคนชอบแบบไหน แล้วเอามาปรับกัน เพราะสิ่งที่เราชอบดีที่สุดเสมอ อย่าฟังเสียงคนรอบข้างมากเกินไป เพราะจะทำให้ลังเลในการเลือก
รู้วันแต่งงาน รีบดูโรงแรม และตัดสินใจ : หากบ่าวสาวได้ฤกษ์แต่งงานแล้ว อันดับแรกให้ดูโรงแรมที่ชอบให้ไวที่สุด อย่าชะล่าใจ เพราะหากโรงแรมที่เราชอบคิวเต็มแล้ว เราจะพลาดสิ่งที่ชอบที่สุด ต้องไปเลือกจากในลิสต์ต่อ
โรงแรมและออแกไนซ์ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง : หากบ่าวสาวได้โรงแรมและออแกไนซ์ที่ดี พร้อมซัพพอร์ต จะช่วยให้เราสบายใจเพิ่มขึ้น 50% เพราะเขาจะให้คำแนะนำที่ดีและมีประโยชน์ บางอย่างอาจเป็นคำเตือนที่ทำให้เรารู้ล่วงหน้าและสามารถหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาได้
เลือกช่างแต่งหน้าแล้ว ถ้ามีโอกาสลองแต่งก่อนได้ยิ่งดี : แม้ว่าบ่าวสาวจะเจอช่างที่ถูกใจ แต่ก็อยากให้ลองแต่งหน้าจริงดูก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าตรงปกไหม สไตล์เข้ากับเราหรือเปล่า ถ้ายังไม่ถูกใจ เราจะได้หาช่างใหม่ หรือพูดคุยกับช่างเพื่อให้ได้สไตล์ที่เหมาะสมที่สุด อย่าลืมว่าการแต่งหน้ามีส่วนสร้างความมั่นใจให้เจ้าสาวในวันแต่งงานได้เยอะ