รีวิวงานแต่งธีม Fairy Tale สวยปัง อลังด้วยจอ LED และโมชั่นกราฟิก 5 แบบ @ Conrad Bangkok

Conrad Bangkok สถานที่แต่งงานหรู ห้องจัดงานมีจอ LED ใหญ่

       ก่อนจัดงานแต่งงาน ผมเก็บข้อมูลมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ไปเดินดูงาน SabuyWedding Festival ที่สยามพารากอนก่อนโควิดจะมาอีกครับ ซึ่งก็ได้ร้านค้ามาจากที่งานด้วย จากนั้นก็ดูข้อมูลงานแต่งจากอินเตอร์เน็ต จนมาเจอ Conrad Bangkok(โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ) 

       พอไปดูสถานที่จริง ตั๊ก(เจ้าสาว) ก็ถูกใจเลย เพราะในห้องบอลรูมมีจอ LED ขนาดใหญ่ ตรงกับคอนเซ็ปต์ที่อยากได้มาไว้ในงานพอดี ตัวห้องก็มีขนาดกว้างขวาง เพดานสูง แถมยังรองรับจำนวนแขกที่เราคิดไว้ได้ ที่สำคัญทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวก และยังมีส่วนลดพิเศษให้ ผมจึงคิดว่าที่นี่เหมาะที่จะจัดทั้งงานหมั้นเช้าและเลี้ยงฉลองเที่ยงครับ

สวยเรียบง่ายด้วยสีครีมขาว ใช้ชุดเจ้าสาวกับแขกเพิ่มสีสัน

       สำหรับงานหมั้น ผมตกแต่งน้อยมากเพราะเน้นใส่ใจไปที่พิธีการมากกว่า เนื่องจากมีแขกผู้ใหญ่มาร่วมงานเป็นส่วนมาก ในงานจึงมีเพียงตรงเวทีที่จัดวางสแตนดอกไม้ ใช้ฉากหลังเป็นม่านสีขาวประดับชื่อบ่าวสาว โดยจะเน้นสีครีมขาวเป็นหลัก เพราะสีชุดเจ้าสาวกับแขกที่มาก็ค่อนข้างมีสีสันอยู่แล้วด้วยครับ

       ส่วนพิธีการช่วงนี้ หลังจากที่แห่ขันหมากแล้ว ผมก็จะไปเจรจาสู่ขอและรับตัวเจ้าสาวเพื่อไปทำพิธีหมั้นด้วยกันครับ ซึ่งก็จะมีการมอบสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๋และยกน้ำชา แล้วหลังจบพิธีเราก็จะไปเปลี่ยนชุด เตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลองครับ   

งานเลี้ยงฉลองสวยฟุ้งกับธีม Disney สุดโปรดของเจ้าสาว

       ถ้าพูดถึงการตกแต่งงานเลี้ยงฉลอง จะบอกว่าแตกต่างจากงานหมั้นอย่างสิ้นเชิง เพราะเราจัดเต็มทุ่มงบประมาณพอสมควร คือครั้งหนึ่งในชีวิตก็ขอเต็มที่ครับ(หัวเราะ) ซึ่งช่วงงานเลี้ยงเราย้ายมาใช้ห้องบอลรูม โดยการตกแต่งทั้งหมด ผมให้เกียรติตั๊กในการตัดสินใจ จึงได้ธีมอิงจาก Disney ที่เขาชื่นชอบ งานนี้ก็เลยจะให้ฟีลสวยฟุ้งๆ เน้นเป็นโทนสีหวานและความเทพนิยายครับ 

       ไล่ตั้งแต่แรกเลยคือโถงทางเดินจะตั้งจุดลงทะเบียนที่วางของชำร่วยเป็นช้อนสแตนเลสและการ์ดสเปรย์แอลกอฮอล์ ซึ่งเราจะแจกให้แขกทั้ง 2 อย่างเลยครับ ถัดมาจะเป็นสมุดนิทานขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ Fairy Tale ฟีลแบบ Once Upon a Time เหมือนเป็นจุดเริ่มต้น โดยตรงนี้จะเป็นทางเข้าซุ้มแกลอรี่ด้วย ส่วนแกลอรี่นี้จะตกแต่งด้วยดอกไม้แซมผีเสื้อยาวไปจนถึงส่วน Backdrop ที่เราจัดเต็มด้วยดอกไม้สดล้วนๆ เลยครับ

       ส่วนในห้อง เราไม่อยากให้เวทีดูโล่งไป จึงตกแต่งด้วยดอกไม้ โครงเหล็ก เพิ่มความหรูหราด้วยคริสตัล และเติมความเป็นเทพนิยายด้วยกวางกับเปียโนครับ แล้วด้วยฉากหลังเวทีเป็นจอ LED เราก็นำมาใส่โมชั่นกราฟิกเพิ่มความสวยงาม โดยจะมีทั้งหมด 5 ฉากด้วยกันเพื่อใช้เปลี่ยนไปตามแต่ละพิธีครับ ซึ่งคีย์หลักของแต่ละฉากจะเป็นกราฟิกแลนด์สเคปพวกวิวทิวทัศน์ต่างๆ อย่างเช่นทุ่งหญ้าตอนเช้าและตอนกลางคืน 

       นอกจากนี้เพราะผมเลือกจัดเลี้ยงเป็นค็อกเทล จึงได้จัดวางซุ้มอาหารต่างๆ ไว้ด้านหลังห้องทั้งฝั่งซ้ายและขวา แล้วก็มีจัดโต๊ะ VIP ให้แขกผู้ใหญ่นั่งประมาณ 12 โต๊ะครับ

       เวลาเริ่มงานเลี้ยงฉลองของเราคือตอน 11:30 น. ครับ โดยเริ่มที่การเปิดวิดีโอพรีเซนเทชั่นพรีเวดดิ้งที่เราเดินทางไปถ่ายกันถึงเขาใหญ่ จากนั้นเจ้าสาวก็จะเดินเข้าห้องมากับคุณพ่อ ในขณะที่ผมจะเดินจากเวทีไปรับเจ้าสาว ต่อมาก็มีประธานขึ้นมากล่าวคำอวยพรและเราสองคนพูดความในใจนิดหน่อย 

       งานนี้เจ้าสาวมีเซอร์ไพรส์แขกและกึ่งๆ เซอร์ไพรส์ผมด้วย เพราะผมรู้ว่าเขาจะเล่นเปียโน เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะเล่นเพลงอะไร(หัวเราะ) กระทั่งเจ้าสาวเล่นเปียโนเพลง Can’t help falling in love ของ Elvis Presley จบก็เข้าสู่ช่วงตัดเค้กและโยนดอกไม้ครับ

       ผมมองว่าแค่งานราบรื่น ไร้ปัญหา ก็คือความประทับใจอย่างหนึ่งเหมือนกัน อีกทั้ง วันนั้นภาพงานโดยรวมดีกว่าที่คิดไว้ด้วยครับ แต่ถ้าพูดถึงโมเม้นต์วันงาน ผมประทับใจที่เห็นแขกบางท่านปลื้มใจจนน้ำตาซึม อย่างตอนที่พ่อเจ้าสาวเดินมาส่งตัวเจ้าสาว พอได้เห็นแขกมีอารมณ์ร่วมกับงานของเราก็รู้สึกดีครับ

       ส่วนทางด้านของโรงแรมนี้ผมก็ประทับใจมากๆ เหมือนกัน ผมดีใจที่แขกชมเรื่องอาหารกันมากว่าอร่อย โดยเฉพาะเมนูเนื้อ พนักงานเองก็บริการดี ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่าง รวมถึงสถานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หรืออย่างเซลล์เองก็น่ารักมากๆ ทำงานไวและใส่ใจคู่ผมเป็นอย่างดีเลยครับ 

แนะนำบ่าวสาว

ใช้เวลาเตรียมงานให้นานหน่อย : การจัดงานแต่งควรมีเวลาในการเตรียมงานให้นานนิดนึง เพื่อจะได้มีเวลาทำการบ้าน หาข้อมูล และจะได้ไม่ลนเกินไปด้วยครับ

ควรเลือกช่างภาพดีๆ มืออาชีพ : เพราะภาพถ่ายเป็นการช่วยบันทึกความทรงจำดีๆ ในวันงาน ถ้าเราเลือกช่างภาพที่ไม่มีประสิทธิภาพ อาจตกหล่นหรือพลาดภาพโมเม้นต์สำคัญได้ครับ

Photo : blurmood / banksunchai