รีวิวงานแต่งอบอุ่นหัวใจในธีมสีเอิร์ธโทน @ Impact Wedding

IMPACT Muang Thong Thani สถานที่ครบครัน ตอบโจทย์ได้ทั้งงานเล็กและงานใหญ่

     เบนกับเพชร (เจ้าบ่าว) ตั้งใจจัดงานแต่งงานที่ Impact Wedding(อิมแพ็ค เวดดิ้ง) อยู่แล้วจึงไม่ดูที่อื่นเลยค่ะ เพราะเคยมางานแต่งทั้งเพื่อนสนิทและลูกพี่ลูกน้อง ชอบตรงที่มีห้องจัดงานที่หลากหลาย แชนเดอเลียร์ตรงโถงรับรองที่ดูสวยแกรนด์ค่ะ ประกอบกับตอนไปดูห้องจัดงาน Sapphire ได้มีโอกาสเห็นบ่าวสาวคู่อื่นจัดงานพอดี จึงทำให้เห็นภาพรวมของงานตัวเองมากขึ้นว่าจะไปในทิศทางใดค่ะ

งานหมั้นอบอวลด้วยความอบอุ่น

       งานนี้ใช้ธีมสีเอิร์ธโทนตกแต่งทั้งงานหมั้นและงานฉลอง เพราะนอกจากเป็นสีที่ชอบแล้ว ยังเป็นสีที่แต่งออกมาให้ดูเรียบหรูและเหมาะกับสถานที่จัดงานอีกด้วย โดยเราไม่เครียดเรื่องการตกแต่งเลย เพราะทางอิมแพ็คมีแบบที่อยู่ในแพ็กเกจ เพียงแค่เราระบุธีมสีและส่วนอื่นอีกนิดหน่อย ที่เหลือเขาก็ช่วยจัดการให้ จนได้ฉากงานหมั้นที่ดีไซน์ออกมาด้วยการใช้เทคนิคผูกผ้าม่านระย้าสีทองและเบจ ประดับชื่อบ่าวสาว แต่งเติมด้วย Flower Stand 2 พุ่ม นอกจากนี้ เราใส่ใจเลือกโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ให้คุมธีมงานด้วยค่ะ

       สำหรับอาหารช่วงเช้า เรามีให้ก่อนพิธีการเริ่ม เพื่อที่แขกมาถึงงานจะได้ทานกันเลย เป็นพวกคอฟฟี่เบรก ข้าวต้ม ที่ถูกจัดไว้ในห้องรับรองข้างห้องหมั้นค่ะ

       ส่วนพิธีการเริ่มต้นด้วยการตักบาตรด้านนอก ถึงค่อยกลับมาทำพิธีสงฆ์ในห้องหมั้น ต่อด้วย แห่ขันหมาก รับตัวเจ้าสาว มอบสินสอด สวมแหวน รับไหว้ ปิดท้ายด้วยพิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งทางอิมแพ็คเขามีของชำร่วยจัดให้พิเศษ เป็นต้นไม้มงคลหลากหลายสายพันธุ์ เราจึงนำของชิ้นนี้มอบให้แก่ญาติผู้ใหญ่ที่มารดน้ำสังข์และมาแสดงความยินดีกับเราค่ะ

งานฉลองที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

       การตกแต่งของงานฉลอง ตรงโถงรับรองมีโต๊ะลงทะเบียนไว้วางของชำร่วยเป็นสบู่รูปทรงคริสตัล ส่วนแบ็คดรอปถ่ายภาพใช้ผ้าเป็นฉากหลังจะได้ดูสวยพลิ้วไหว และจัดแต่งดอกไม้ที่ตั้งแยกชิ้นส่วนกันค่ะ จะได้ดูมีมิติ ซึ่งแบ็คดรอปจะตั้งอยู่ตรงแชนเดอร์เลียที่เราชอบพอดีเลยค่ะ 

       นอกจากนี้ มีภาพบ่าวสาว 4 ภาพ ตั้งวาง 2 ฝั่ง ระหว่างทางเดินเข้าสู่ห้องจัดงาน เพิ่มการตกแต่งอีกชิ้นด้วยแกะสลักน้ำแข็งเป็นชื่อย่อตัวอักษรภาษาอังกฤษของเราสองคนค่ะ

       เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องเลี้ยงฉลอง จะมีการปูพรมทางเดินด้วยค่ะ ส่วนฉากผ้าบนเวทีเน้นเรียบเลย แต่เลือกชื่อบ่าวสาวที่เน้นตัวอักษรใหญ่หน่อยจะได้ดูไม่โล้นไป และอาศัยความสวยของดอกไม้ตกแต่งเยอะเป็นพิเศษ มีทั้งประดับตรงฉากหลัง บริเวณพื้น รวมถึง ฐานแชมเปญ ทาวเวอร์ ด้วยค่ะ

       เราถ่ายภาพกับแขกตรงแบ็คดรอป เมื่อได้เวลาบ่าวสาวเปิดตัวเข้าไป จนขึ้นบนเวทีเรียบร้อย ก็เชิญประธานกล่าวคำอวยพร สัมภาษณ์เราสองคน รินแชมเปญ ปิดท้ายด้วยการที่เราเรียกเพื่อนที่คัดมาเป็นพิเศษให้ขึ้นมารับดอกไม้เลยก็จบพิธีอย่างเป็นทางการ

       สำหรับงานนี้ แขกที่มาร่วมงานกว่า 300 ท่าน เป็นผู้ใหญ่ส่วนมาก เราจึงจัดเลี้ยงเป็นเมนูโต๊ะจีน เพราะเขาน่าจะคุ้นเคยมากกว่า โดยเมนูก็มีเมนูออเดิร์ฟ เป๋าฮื้อ กระเพาะปลา ข้าวผัด สลัดกุ้งครีมซอส เป็ดอบซอสแดง ส่วนขนมหวาน คือ สาคูแคนตาลูปค่ะ โดยอาหารจะถูกเสิร์ฟไปพร้อมกับการรันพิธีการบนเวที ซึ่งก็มีแต่แขกชมว่าอาหารอร่อยหลายอย่าง ซึ่งเขาชมตั้งแต่เมนูคอฟฟี่เบรกแล้วค่ะ

ประทับใจทีมงานและสถานที่ช่วยให้งานราบรื่น

       เราจัดงานตรงกับวันธรรมดา พอเห็นเพื่อน ๆ ยอมลางานเพื่อมาร่วมแสดงความยินดี เท่านี้ มันก็สุขใจมาก ๆ แล้วค่ะ ส่วนครอบครัว เราแอบปลื้มตรงที่พวกท่านชมว่าเราเลือกสถานที่จัดงานได้ดี ที่จอดรถโอเค เดินทางสะดวกสบายมาก ๆ เพราะจอดรถเสร็จก็สามารถเดินเชื่อมมาสู่พื้นที่จัดงานได้เลย

       สุดท้ายนี้ ก็ต้องขอบคุณทาง Impact Wedding เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่จัดงานแต่งที่สวยและครบวงจรแล้ว เจ้าหน้าที่อิมแพ็คทุกฝ่ายมีความมืออาชีพและรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดี ตั้งแต่คุณทราย เซลล์ของที่นี่ที่สร้างความประทับใจให้เราตั้งแต่พาเดินสำรวจห้องจัดงาน คุณแอน ผู้ที่มาดูแลหน้างานที่รู้ใจ และรู้ความต้องการของเราเป็นอย่างดี ตลอดจน พนักงานบริการที่คอยเสิร์ฟอาหารได้อย่างทั่วถึงและบริการดีมาก เพราะทีมงานทุกฝ่ายให้ความช่วยเหลือดีแบบนี้ จึงทำให้งานราบรื่นจนมีแต่แขกชมเพียบเลยค่ะ

คำแนะนำบ่าว-สาว

บ่าวสาวควรคุยกันเองให้ชัดเจนก่อน : ช่วงเริ่มเตรียมงานควรตกลงกันให้เคลียร์ ว่าอยากใช้ธีมสีอะไร กำหนดแนวทางการจัดงานให้ชัดเจนว่าจะเป็นแบบไหน เพื่อจะได้ไปในทิศทางเดียวกัน และที่สำคัญควรแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจนว่าบ่าวสาวควรทำอะไร เพื่อที่แต่ละคนจะได้รับผิดชอบในส่วนที่ดูแลของตนเอง และช่วยลดการทะเลาะกันได้ด้วย

สรุปงานด้วยการร่างภาพ : สำหรับการเตรียมงานแต่ง ควรทำรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมแปะภาพประกอบ จะเป็นการเขียนมือหรือทำในโปรแกรมต่าง ๆ ก็ได้ เพราะวิธีนี้จะทำให้เห็นภาพรวมของงานได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้เราอยู่ถึงขั้นตอนไหนแล้ว

เตรียมงานอย่างน้อย 6 เดือน: ส่วนตัวมองว่า ระยะเวลาเตรียมงานแต่ง 6 เดือน ถือว่าเป็นช่วงเวลาเตรียมงานแต่งกำลังดีที่จะทำให้เราจอง และดีลงานต่าง ๆ ได้อย่างไม่กระชั้นชิดเกินไป

Photo : Jakkit Photography