Marriott Executive Apartments Sukhumvit Park Bangkok กับพื้นที่อินดอร์สุดหรูและสวนสวยสุดชิล
เนื่องจากคุณโรเจอร์ (เจ้าบ่าว) เป็นชาวมาเลเซีย เพื่อนและครอบครัวจะมาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ เฟิร์นจึงอยากได้สถานที่ที่อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก และอยากให้มีบรรยากาศดูชิล ๆ อบอุ่น เป็นกันเองมากที่สุดค่ะ ที่ Marriott Executive Apartments Sukhumvit Park Bangkok(แมริออท เอ็กเซ็กคิวทีฟ อพาร์ทเมนต์ สุขุมวิท พาร์ค กรุงเทพฯ) ตอบโจทย์เรามาก ตัวสถานที่มีสวนเอาท์ดอร์ร่มรื่น ห้องจัดเลี้ยงมีผนังเป็นกระจก มองเห็นวิวธรรมชาติด้านนอกได้ ทำให้ห้องโปร่งโล่ง และเรารู้สึกถูกคอกับคุณอิ๋ว เซลล์ของโรงแรม ที่ทั้งเป็นมืออาชีพและให้คำแนะนำที่ดีค่ะ
สวยเรียบง่าย ด้วยธีมสีเขียว-ขาว
เฟิร์นใช้ธีมสีเขียวและขาว เพราะอยากให้เข้ากับบรรยากาศและสถานที่ ส่วนเดรสโค้ดของแขก เลือกสีแชมเปญโกลด์ เพราะถ้าใช้สีเขียวด้วยก็กลัวว่าทั้งงานจะดูเขียวเกินไปหน่อยค่ะ (หัวเราะ)
สำหรับการตกแต่งเน้นเรียบง่าย เพราะสถานที่สวยอยู่แล้ว โดยเราจัดงานช่วงเย็น จึงอาศัยไฟปิงปองมาตกแต่งเพิ่มความสวยงามและเพิ่มแสงสว่างให้กับพื้นที่เอาท์ดอร์ ด้านหน้ามีป้ายกระจก Welcome และฉากแบ็คดรอปถ่ายภาพที่เราจัดไว้ด้านในสุดของสวน เพราะตั้งใจให้แขกได้ซึมซับบรรยากาศขณะเดินเข้ามาในงานค่ะ
ฉากแบ็คดรอปนั้น เราตั้งใจทำฉากแยกชิ้น โดยดีไซน์รูปทรงให้โค้งหน่อยเพื่อให้รู้สึกเข้าถึงง่าย และวางฉากสีขาว-เขียวสลับกัน แล้วเสริมด้วยดอกไม้ค่ะ ส่วนตรงพื้นที่เฉลียง เราตกแต่งภาพบ่าว-สาวเคียงข้างไปกับอาหาร และมีดอกไม้ประดับโต๊ะค็อกเทลค่ะ
บนเวทีด้านในห้องจัดงาน เราใช้ผ้าม่านสีขาวเป็นฉากหลังและโลโก้บ่าว-สาวเท่านั้น เพราะบางช่วงต้องใช้จอโปรเจกเตอร์ด้วย ส่วนชื่อบ่าว-สาวในจอเราก็ทำเองค่ะ นอกจากนี้ มุมหนึ่งของห้องยังมีเก้าอี้และโซฟา ประดับด้วยฟลาวเวอร์สแตนด์สองข้างสำหรับพิธีหมั้น พอจบพิธี เราก็ย้ายการตกแต่งส่วนนี้ ไปตั้งข้างทางเดินเปิดตัวบ่าว-สาวค่ะ
ด้วยงานนี้มีแขกเพียง 100 ท่าน และเราอยากให้แขกทุกคนรู้สึกพิเศษ เฟิร์นจึงเลือกทำของชำร่วยเองคือเทียนหอมหลากกลิ่นใส่กระปุกสแตนเลสลายกราฟิกที่คล้ายกับลายพรมตุรกี ซึ่งเป็นประเทศที่เราจะไปฮันนีมูนกันด้วยค่ะ
ทุกพิธีการเปี่ยมไปด้วยความสนุก สุข และรอยยิ้ม
รูปแบบการจัดงานเป็นพิธีหมั้นสั้น ๆ ช่วงเย็น แล้วต่อด้วยงานเลี้ยงฉลองในช่วงค่ำ หลังจบพิธีหมั้นพื้นที่จะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อตั้งโต๊ะจัดเลี้ยง โดยมีทั้งโต๊ะ Long Table และโต๊ะกลมสำหรับแขก VIP เพราะแขกฝั่งโรเจอร์คุ้นเคยกับโต๊ะกลมมากกว่าค่ะ
ก่อนพิธีการในห้องจะเริ่มขึ้น เรามีวงดนตรีสดมาเล่นคลอในช่วงที่บ่าว-สาวถ่ายภาพที่ฉากแบ็คดรอปกับแขกด้านนอก เมื่อได้เวลา เฟิร์นกับโรเจอร์จะเปิดตัวเข้าไปในห้องและเดินผ่านเพื่อนขึ้นเวที ซึ่งงานนี้ไม่มีประธานค่ะ จากนั้นเราก็พูดความในใจ กล่าวขอบคุณแขก และรินแชมเปญกัน
ต่อจากนั้น จะมีช่วงเวลาพิเศษเป็นวัฒนธรรมการแต่งงานแบบชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ที่แขกทุกคนจะลุกขึ้นยืน พร้อมตะโกนดัง ๆ และลากเสียงยาว ๆ ว่า Yam Seng คล้ายการไชโยบ้านเรา ถึงสามรอบด้วยกัน จบแล้วก็ต่อด้วย ดึงริบบิ้นดอกไม้ ถ่ายรูปครอบครัว แล้วบ่าว-สาวก็ไปเปลี่ยนชุดเพื่องานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ และกลับมาอีกครั้งด้วยการเดินไปตะโกน Yam Seng กับแขก เริ่มจากโต๊ะเพื่อนเจ้าบ่าว จากนั้นเพื่อนเจ้าบ่าวจะเดินตามบ่าว-สาวไปด้วยจนครบทุกโต๊ะ แล้วก็เข้าสู่งานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่ทุกคนสนุกกันสุดเหวี่ยงเลยค่ะ (หัวเราะ)
สำหรับอาหาร เราตั้งใจเลือกเมนูไทยบุฟเฟ่ต์ เพราะอยากให้แขกและครอบครัวฝั่งโรเจอร์ได้ลิ้มรสอาหารไทย โดยมีเมนูพิเศษคือเมี่ยงคำที่คุณแม่เจ้าบ่าวชอบมาก รวมถึงส้มตำ ปอเปี๊ยะผักทอด ทอดมันกุ้ง ลาบไก่ แกงมัสมั่นไก่ ต้มยำกุ้ง ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งเราดีใจที่แขกชมอาหารกันเพียบเลยค่ะ
ประทับใจงานสนุก เพราะความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย
เฟิร์นประทับใจที่ได้เห็นแขกสนุกสนานกันเต็มที่ โดยในช่วงปาร์ตี้ คุณพ่อและคุณแม่ของโรเจอร์ถึงกับขึ้นไปแดนซ์กันบนเวทีเลยค่ะ (หัวเราะ) และเฟิร์นยังซาบซึ้งใจเพื่อน ๆ ที่คอยช่วยเหลือดูแลทุกอย่าง งานเราไม่มีออแกไนซ์ ก็ได้ประสบการณ์จากเพื่อน ๆ ที่แต่งงานแล้ว บวกกับพิธีกรที่คอยแนะนำคิวต่าง ๆ จนงานผ่านไปได้ด้วยดี ช่างแต่งหน้า และวงดนตรีก็ทำหน้าที่ได้ดี ทำให้งานของเราสนุกมากค่ะ
สุดท้าย เราประทับใจโรงแรม ทั้งบรรยากาศ สถานที่ และพนักงานที่ดูแลเราอย่างดี อย่างช่วงที่บ่าว-สาวกำลังเตรียมตัวแต่งหน้า ทางโรงแรมก็เสิร์ฟอาหารให้ถึงห้องพัก เพราะเขารู้ดีว่าบ่าวสาวอาจไม่มีเวลารับประทานอาหาร อีกทั้งช่วงงานฉลองที่เราเดินสะดุดชายกระโปรงก็มีน้องพนักงานรีบเดินมาช่วย พร้อมบอกวิธีเดินเพื่อป้องกันการหกล้ม ทำให้เราประทับใจมากค่ะ เท่านั้นยังไม่พอ หลังจบงานแต่งแล้ว วันรุ่งขึ้นทีมงานของโรงแรมยังช่วยแพ็คภาพบ่าว-สาวและของกระจุกกระจิกต่าง ๆ มาให้อย่างดี จนเราแทบไม่ต้องทำอะไร (หัวเราะ) ทำให้รู้สึกว่าวันนั้นเราเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก ๆ เลยค่ะ (หัวเราะ)
คำแนะนำบ่าว-สาว
ก่อนจัดงาน ควรเปิดใจพูดคุยกันตรง ๆ : อยากให้บ่าว-สาวบอกความต้องการของตนอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ดีกว่าเกรงใจแล้วมาบอกความรู้สึกจริง ๆ กันตอนใกล้วันงานที่มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว อยากจะเป็นกำลังใจให้บ่าว-สาวด้วยว่า ถ้าเกิดปัญหา ก็อยากให้หันหน้าเข้าหากัน เพื่อหาจุดกึ่งกลางร่วมกัน มากกว่าจะหันหน้าหนีออกจากกัน
ช่วงเตรียมงาน อย่าลืมทำเช็คลิสต์ : ช่วงเตรียมงานควรทำเช็คลิสต์ให้ละเอียด เพราะพอใกล้ถึงวันงาน เราอาจตื่นเต้นจนหลงลืมอะไรไปได้ ทั้งยังควรมีปฏิทินกำหนดตารางเวลางาน เพื่อให้รู้ด้วยว่ายังเหลืออะไรที่ต้องทำอีกบ้างในแต่ละเดือน เราจะได้รู้ลำดับขั้นตอนของงานชัดเจนมากขึ้น
วันงาน ควรปล่อยใจให้มีความสุข : ในวันงาน ควรยอมรับว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากให้ปล่อยวาง และมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เพื่อจะได้จดจำแต่โมเมนต์ดี ๆ ค่ะ
Photo : Sakditat Photographer
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Marriott Executive Apartments Sukhumvit Park Bangkok