Phothalai Bangkok สถานที่แต่งงานกว้างขวาง สวยครบทุกบรรยากาศ ทั้ง Outdoor และ Indoor
เตยกับนัท (เจ้าบ่าว) คิดตรงกันว่าไม่อยากจัดงานในโรงแรม อยากแต่งงานที่ได้บรรยากาศทั้ง Outdoor และ Indoor รุ่นพี่ที่สนิทจึงแนะนำ Phothalai Bangkok (โพธาลัย กรุงเทพฯ) พอหาข้อมูลเพิ่มก็เห็นว่าดาราแต่งงานที่นี่เยอะ เลยนัดวันเข้าไปดู เราคุ้น ๆ ว่าเคยมาไดร์ฟกอล์ฟ แต่ไม่ทราบว่ามีโซนจัดงานแต่งด้วย เพราะที่นี่กว้างขวางมากจริง ๆ ค่ะ มีทั้งสปา สนามกอล์ฟ และโซนบาซิลิกาไว้จัดงานแต่งอยู่ด้านในสุดค่ะ
ครั้งแรกที่เห็นก็ชอบและมั่นใจว่าจะแต่งงานที่นี่ เพราะมีบรรยากาศอย่างที่อยากได้ รวมถึงการตกแต่งหลากหลาย ถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม เช่น สวน น้ำตก ลำธาร ต้นไม้ ทำให้เราสัมผัสธรรมชาติได้อย่างแท้จริงค่ะ นอกจากนี้ ที่จอดรถยังเพียงพอ รองรับแขกที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดได้ ขณะเดียวกันก็มีรถกอล์ฟไว้บริการรับ-ส่งแขกด้วยค่ะ
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่เลือกที่นี่ เพราะเห็นหอระฆัง ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์เลยก็ว่าได้ สามารถใช้เป็นกิมมิกให้งานแต่งเรา แถมสอดแทรกความหมายดี ๆ ไว้ด้วยค่ะ เราสองคนชอบมุมนี้มากถึงขั้นจ้างทีมวาดภาพการ์ดงานแต่ง เป็นภาพเราสองคนยืนอยู่หน้าจุดลั่นระฆังวิวาห์เลยค่ะ
งานหมั้นสวยสบายตา ทั้งสีตกแต่งและบรรยากาศรอบด้าน
เราจัดงานหมั้นเช้าที่ห้อง ‘คอทเทเล่’ ซึ่งเป็นผนังกระจกเกือบ 180 องศา สามารถมองเห็นวิวน้ำตกได้ด้วย ส่วนการตกแต่ง เราให้ทางทีมโพธาลัยช่วยดูแลค่ะ โดยเลือกแบบที่มีอยู่แล้ว ฉากหลังมีดอกไม้ชูช่อขึ้น 2 ฝั่ง และปรับสีตามธีมเป็นโทนสบายตาอย่างสีขาวและสีชมพู เราไม่ตกแต่งเยอะ เพราะอยากได้งานเรียบง่าย อบอุ่น เข้ากับจำนวนแขกที่มีเพียง 50-60 ท่านค่ะ
ส่วนจุดรับตัวเจ้าสาวตรงคอสะพานข้ามลำธาร เราใช้ดอกไม้จริงตกแต่งเป็นพุ่มและแซมด้วยดอกไม้ยักษ์ Pop-up ค่ะ
พิธีหมั้นงานเราเริ่มด้วยพิธีสงฆ์ ใส่บาตรพระที่ด้านนอกก่อน ระหว่างนี้แขกสามารถทานอาหารเช้าในห้องที่เราจัดไว้ให้ เป็นเมนูบุฟเฟ่ต์ข้าวต้ม หมูปิ้ง ติ่มซำ และเพิ่มบูธกาแฟสดของร้านคุณอาของเตยด้วยค่ะ
จากนั้นนัทจะแห่ขันหมากเดินข้ามสะพานมาเจอเพื่อนและญาติฝั่งเจ้าสาวที่กั้นประตูเงิน-ประตูทอง โดยเตยมีแอบแวบมาดูเจ้าบ่าวนิดหน่อย เมื่อเขาผ่านด่านได้แล้ว เตยก็กลับไปนั่งรอยังจุดรับตัวที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสะพานค่ะ
หลังจากนัทรับตัวเตยแล้วก็มาทำพิธีในห้องต่อ มอบสินสอด รดน้ำสังข์ จากนั้นเตยจะรีบไปเปลี่ยนอีกชุดเพื่อมาทำพิธียกน้ำชา ก็เสร็จสิ้นช่วงงานหมั้นค่ะ
ในจังหวะที่เราไปเปลี่ยนชุดสำหรับงานเลี้ยงฉลองช่วงเที่ยง ซึ่งต้องเดินทางโดยรถยนต์ เนื่องจากห้องรับรองบ่าวสาวอยู่คนละโซนกับที่จัดงาน เตยเลยถือโอกาสนี้ให้คุณพ่อคุณแม่มายืนส่งเราสองคน ฟีลเหมือนส่งตัวเจ้าสาวค่ะ แม้เราจะทำพิธีจีนไปแล้วก่อนหน้า แต่คิวนี้เตยเอาโมเมนต์ล้วน ๆ ค่ะ
งานฉลองเรียบหรู เติมฉากโรแมนติกด้วยระฆังวิวาห์
เราอยากให้งานฉลองมีความเรียบหรู จึงใช้สีโรสโกลด์ สีครีม และสีน้ำตาลมาตกแต่งงานค่ะ โดยเริ่มวางแกลเลอรีบ่าวสาวตั้งแต่ทางเดินเข้าอาคารเลย ส่วนโถงรับรองมีโฟโต้บูธ และแบ็คดรอปที่ดัดฉากให้โค้ง เติมความเคิร์ฟด้วยฉากที่เราดีไซน์แยกชิ้นมาแต่งด้านหน้า และประดับดอกไม้ไล่ไปตามขอบโค้งค่ะ
ด้วยความที่ห้อง ‘บาซิลิกา’ เป็นกลาสเฮาส์ แม้มีม่านสีขาวกั้นบาง ๆ แต่ก็ยังรับแสงเดย์ไลท์ได้ เราเลยไม่ใช้ฉากทึบไปบดบัง แต่เลือกใช้โครงเหล็กทรงโค้งสีโรสโกลด์ ประดับดอกไม้ทั้งบนโครงและบริเวณพื้นให้ดูสวยละมุนตาแทนค่ะ
ส่วนกำหนดการงานฉลองช่วงเที่ยง แขกราว 300 ท่านจะรับของชำร่วยเป็นช้อนส้อมขนาดพกพา ถ่ายรูปร่วมกับบ่าวสาวและถ่ายโฟโต้บูธ จากนั้นเราจะไปลั่นระฆังวิวาห์ 9 ครั้ง
เมื่อสิ้นเสียง ก็ถึงคิวบ่าวสาวเปิดตัวเดินเข้างานค่ะ พอขึ้นเวที เราพูดคุยเรื่องราวตัวเองก่อนเชิญประธานกล่าวคำอวยพร ต่อด้วยรินแชมเปญทาวเวอร์ พร้อมดื่มอวยพรกับแขก ดึงริบบิ้นช่อดอกไม้ และปิดท้ายด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้แบบไพรเวท ที่เราตั้งใจจะใช้ช่วงเวลานี้เพื่อทักทายแขกให้มากขึ้นด้วยค่ะ
สำหรับรูปแบบโต๊ะ เราใช้การจัดโต๊ะผสมผสานกัน ทั้งโต๊ะกลม, โต๊ะ Long Table และโต๊ะ Cocktail เพื่อให้ภายในห้องดูลงตัวและไม่แน่นเกินไปค่ะ โดยเมนูอาหารมีทั้งเมนูค็อกเทลและซุ้มอาหาร เช่น สปาเกตตี้ ข้าวผัดสับปะรด ค่ะ
บ่าวสาวประทับใจ ได้งานราบรื่น เพราะทีมงานบริการด้วยใจ
เราแอบภูมิใจที่แม้ไม่ใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ ใช้เพียงออแกไนซ์-รันคิว แต่งานก็ออกมาเป๊ะและภาพรวมราบรื่นค่ะ ยอมรับว่าเราได้ทีมงานดีด้วย ทุกฝ่ายมืออาชีพและมีความรับผิดชอบ และส่วนสำคัญที่งานออกมาสมบูรณ์แบบขนาดนี้ เพราะเราเลือกสถานที่จัดงานแต่งที่ดีมาตั้งแต่ต้น ทั้งบรรยากาศและการตกแต่งที่ช่วยเสริมให้งานเราดูสวยอบอุ่น แม้แต่แขกเองก็ชอบมากเช่นกัน มีไปถ่ายรูปเล่นตามจุดต่าง ๆ กันเยอะ เพราะที่นี่สวยทุกมุมจริง ๆ ทำให้แขกไม่เบื่อ และเราเองก็สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าค่ะ
ต่อมาประทับใจทีมงานของโพธาลัย เขาใส่ใจงานบริการและทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากค่ะ ก่อนวันแต่งงานก็มีบัตเลอร์มาคอยให้บริการตลอด 24 ชม. ทีมแม่บ้านดูแลโซนห้องพักบ่าวสาวก็คอยสอบถามและรอต้อนรับทีมงานต่าง ๆ แม้ว่าจะดึกมากก็ตาม
ที่สำคัญประทับใจคุณบุ๋มบิ๋ม เซลล์ของที่นี่ ที่คอยประสานงานให้ผ่านไปได้ด้วยดี และเต็มที่กับการทำงาน แม้เรามีข้อสงสัยอยากสอบถามตอนเที่ยงคืน คุณบุ๋มบิ๋มก็ยังตอบไลน์ค่ะ
เราชื่นชมจากใจและไม่คาดคิดว่า ทีมงานของโพธาลัยจะดูแลและบริการดีขนาดนี้ เราเลยอยากเป็นตัวแทนของบ่าวสาวรุ่นพี่มารีวิว และแบ่งปันความรู้สึกในการจัดงานที่นี่ให้คนอื่นได้รู้ เผื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจให้บ่าวสาวรุ่นน้องด้วยค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
ต้องมีภาพในหัวชัดเจน : บ่าวสาวควรคุยกันเองให้เคลียร์ตั้งแต่แรกว่า อยากได้งานแบบไหน ทางทีมงานจะได้ทำงานง่าย ไม่ต้องปรับเปลี่ยนบ่อย ๆ และยังได้ผลลัพธ์ออกมาตรงใจเราด้วย
วันงานต้องตั้งสติ : วันแต่งงานบ่าวสาวจะยุ่งวุ่นวายพอสมควร อยากให้ใจเย็นและมีสติเสมอ เพื่อจะได้รู้ว่าคิวต่อไปเป็นอะไร ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมบนเวทีไหม เพราะหากเกิดผิดพลาดบนเวที ถ้าเรามีสติก็จะสามารถแจ้งทีมงานให้แก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที
หาตัวช่วยที่ทำให้หลับสนิท : หากคืนก่อนวันแต่งงาน เรากังวล ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ วันต่อมา เราอาจรู้สึกไม่เฟรช สมองตื้อ และเบลอได้ ลองพึ่งตัวช่วยที่ทำให้นอนหลับได้ดี เช่นถ้าเป็นภูมิแพ้อยู่แล้วก็อาจกินยาแก้แพ้ หรือกินยากลุ่มเมลาโทนินที่มีสรรพคุณช่วยในเรื่องการหลับลึก
จงมั่นใจว่าสิ่งที่เลือก ดีที่สุดแล้ว : อยากให้บ่าวสาวมั่นใจในตัวเองว่าทุกสิ่งที่ทำ หรือตัดสินใจเลือกไปนั่นดีที่สุดแล้ว ซึ่งรวมถึงมั่นใจในทีมที่เลือกด้วย เราควรไว้ใจให้เขาทำงานในแบบที่ถนัด เพื่อที่จะได้ไม่กดดันเกิินไป และทำงานร่วมกับเราอย่างสบายใจ จนได้ผลงานที่ออกมาดี
Photographer : Coffee Photographer, Bank Ekkapol