รีวิวงานแต่งสวยไม่ซ้ำใคร กับธีมสี Hologram ทั้งงานหมั้นและฉลอง @ The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok

ดีไซน์ดี มี Signature กับกิมมิกสี Hologram และฟองอากาศ
     บีเลือกจัดงานที่ The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok(โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล) เพราะเจ้าบ่าวชอบโรงแรมนี้เป็นพิเศษค่ะ ส่วนบีเองพอได้ไปดูสถานที่จริง บีชอบห้องบอลรูมที่มีเพดานสูง พื้นที่กว้างขวาง จุคนได้เยอะ ตอบโจทย์งานฉลองที่จะมีแขกร่วมงานกว่า 600 ท่าน ซึ่งเราใช้พาร์ทิชั่นกั้นให้เป็นสัดส่วน แล้วจัดงานหมั้นและงานฉลองในห้องเดียวกันเลย
 

       
       พอได้สถานที่จัดงาน ก็มาถึงสิ่งสำคัญอย่างธีมจัดงาน ที่บีมีคอนเซ็ปต์ชัดเจนว่าจะใช้สีโฮโลแกรม เพราะชอบความแวววาวของสีสันยามแสงตกกระทบ ประกอบกับบีและพี่เอิ๊กชื่นชอบการดำน้ำ เลยคิดว่าถ้ามีดีไซน์ฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาเหนือน้ำด้วยก็ดี และบียังนำความต้องการของพี่เอิ๊กมาใส่ด้วย คือไม่เน้นดอกไม้เยอะและไม่หวานฟุ้ง เพราะไลฟ์สไตล์เขาเป็นผู้ชายที่แมนสุด ๆ ไปเลยค่ะ (หัวเราะ)   

       สำหรับงานนี้ บีได้ทีม Jeniva(เจนีว่า) มาตกแต่ง ซึ่งเราคุยกันถูกคอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยค่ะ ถึงแม้การบรีฟงานของเราจะทำให้เขางงกับความแอ็บแสตร็กของคอนเซ็ปท์ไปบ้าง (หัวเราะ) แต่สุดท้าย Jeniva ก็สามารถครีเอทงานนี้ออกมาได้สวย แปลก แหวกแนว สมใจมากจนบีเองยังตกใจเลยค่ะ ที่เขาอ่านใจเราออกว่าเราต้องการอะไร

Backdrop Popup ฉบับ 2 In 1
       ถึงใช้ธีมเดียวกันทั้งงานหมั้นและงานฉลอง แต่ในใจบีก็อยากให้มีความต่าง บีเลยปรึกษากับ Jeniva เขาก็ครีเอท Backdrop บนเวทีให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย สุดท้ายจึงได้ทั้งดีไซน์ที่น่าสนใจและใช้งานได้คุ้มค่า ส่วนฉากเวทีเราใช้วิธีการขยับและขยาย Backdrop ตัวเดิมบนเวทีเมื่อจบงานงานหมั้นแล้ว จะถูกยืดขยายออกจากการใช้รางเลื่อนและพอกางออกมาจะพบจอ LED แนวตั้งตรงกลาง ซึ่งตอนเช้าจะไม่มีใครเห็น เพราะทีมตกแต่งใช้ผ้าขาวขึงปิดไว้อย่างแนบเนียนค่ะ (หัวเราะ)

       บีชอบ Jeniva ตรงที่เขาใส่ใจดีเทล พอเห็นว่าเราจัดงานหมั้นและงานฉลองในห้องเดียวกัน ทีมตกแต่งเลยเลือกที่จะนำผ้าม่านรางเลื่อนมาบังส่วนของโถงทางเดิน ที่วางแกลอรี่ และ Backdrop ถ่ายภาพไว้ก่อน กันแขกที่มาร่วมพิธีช่วงเช้าเห็นในจุดนี้ จะได้มีฟีลลิ่งที่ต่างกับงานฉลอง 

งานหมั้น ครบทุกพิธีสำคัญ ตามฤกษ์ดี มงคลดี
       สำหรับการตกแต่งงานหมั้น มีเพียงฉากเวทีด้านบนเท่านั้น ซึ่งงานช่วงเช้า เราต้องการให้บรรยากาศดูอบอุ่นเป็นกันเอง แต่งานพิธีการก็จะจัดเต็มนิดนึง (หัวเราะ) มีทั้งพิธีสงฆ์ แห่ขันหมาก รับตัวเจ้าสาวเข้าไปในห้องพิธี มอบสินสอด สวมแหวน ช่วงรับไหว้นั้น เรามีพิธีจีนด้วยคือมีการยกน้ำชาเพราะฝั่งครอบครัวบีมีเชื้อสายจีน ต่อด้วยการจดทะเบียนสมรส รดน้ำสังข์ และส่งตัวบ่าวสาวเป็นอันจบพิธี จากนั้นก็เตรียมเปลี่ยนชุดสำหรับงานฉลอง

งานฉลองเล่นแสงและสี สวยทุกมิติ ดูดีทุกมุมมอง
       การตกแต่งของงานฉลองนั้น โถงทางเดินจะตกแต่งแกลอรี่ขนาบกันไปทั้งสองข้าง มองไปข้างหน้าจะพบ Backdrop สำหรับถ่ายภาพที่สร้างโครงฉากให้มีมิติขึ้น ด้วยตรงกลางที่ทำเหมือนปีกสองชิ้น ติดทับฉากด้านหลังอีกที แต่งเพิ่มด้วยอะคริลิกครึ่งซีก ยึดด้วยบานพับประตูให้ดูเหมือนฟองอากาศ ทั้งยังติดไฟตรงพื้นเพื่อให้แสงได้เล่นกับสี Hologram ตรงอะคริลิกด้วย
 

       ฟองอากาศอะคริลิกที่ทีม Jeniva ทำมานั้น เขาคิดมาแล้วว่าจะวางตำแหน่งอะคริลิกตรงไหน ให้มีความน่าสนใจ สามารถเล่นกับแสงยามตกกระทบ และเกิดการหักเหของแสง จนไม่ว่าจะยืนถ่ายรูปจากมุมใด แสงสีที่ได้ก็จะไม่เหมือนกันสักมุม นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่บีประทับใจทีม Jeniva ที่คิดนอกกรอบ สามารถแปลงสารของคำว่าฟองอากาศออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ เค้าใส่ใจทุกดีเทล คือไม่เว้นแม้แต่กรวยดอกไม้และสายข้อมือของเพื่อนเจ้าสาวที่คุมธีมสี Hologram ให้เราด้วย

       สำหรับพิธีการงานฉลอง หลังจากที่แขกลงทะเบียนรับของชำร่วยเป็นเจลแอลกอฮอล์และเหรียญที่ระลึก 20 บาทของกรมชลประทานเรียบร้อยแล้ว ก็มาถ่ายรูปกับบ่าวสาว ที่ Backdrop กระทั่งเวลา 11.30 น. พอด้านในเปิดวิดีโอพรีเซนเทชั่นจบ บีจะเดินเปิดตัวไปพร้อมกับคุณพ่อ และเจ้าบ่าวที่ยืนรออยู่บนเวทีจะเดินลงมารับเรา ขณะที่จอ LED นั้นจะเคลื่อนไหวด้วยภาพ Motion graphic เป็นอิเล็กตรอน-โปรตรอนซึ่งพี่เอิ๊กชอบ และมีพลุที่บีอยากได้ (หัวเราะ) เมื่อขึ้นบนเวที มีประธานขึ้นกล่าวจบแล้ว เราเดินลอดซุ้มกระบี่เพื่อไปตัดเค้ก แล้วกลับมาโยนดอกไม้บนเวทีก็จบงานค่ะ
 

       สำหรับการจัดเลี้ยงอาหาร บีเลือกเป็น Cocktail Buffet มีจัดโต๊ะกลมให้แขกผู้ใหญ่ 16 โต๊ะ โดยมีพนักงานให้บริการเสิร์ฟอาหาร 2 คนต่อโต๊ะ ส่วนตรง Food station จะมีทั้งเมนูอาหารญี่ปุ่น ขาแฮมเสิร์ฟพร้อมซอส เป็ดปักกิ่ง กระเพาะปลา ข้าวมันไก่ และมีขนมหวานของเชฟไก่ที่เรานำเข้ามาเองด้วยค่ะ

ทริคลดการทะเลาะให้บ่าวสาว คือ การเข้าใจไลฟ์สไตล์อีกฝ่ายอย่างถ่องแท้
       การจัดงานแต่ง ย่อมมีโอกาสที่บ่าวสาวจะมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ถ้าเราเข้าใจไลฟ์สไตล์ของกันและกันอย่างลึกซึ้ง โอกาสทะเลาะกันจะน้อยลง อย่างเช่น บีรู้ว่าพี่เอิ๊กไม่ชอบแนวหวาน บีจะพยายามไม่ใส่อะไรที่ดูหวานเกินความจำเป็น หรือในทางกลับกัน บีชอบดอกทานตะวันและขอพี่เอิ๊กมาตกแต่งในงาน แต่เขามองว่าไม่เข้ากับงาน เลยเลือกที่จะแก้ปัญหาด้วยการพาเราไปถ่ายภาพที่ทุ่งทานตะวันและนำภาพถ่ายนั้นมาตกแต่งในงานแทน ดู ๆ แล้ว เจ้าบ่าวก็พยายามช่วยเราหาทางออกสุดฤทธิ์น่ะค่ะ (หัวเราะ)

อิ่มใจงานนี้มีแต่ความชอบและความสุข
       ด้วยสถานการณ์โควิด จึงทำให้บีไม่ได้คาดหวังเลยว่าแขกจะมาร่วมงานเยอะ แต่พอเห็นวันงานแขกมาเกินความคาดหมาย บีดีใจมากๆ เพราะมันแสดงว่าเขารักเรามากนะ ที่ยอมเสี่ยง และยอมทำตามกฏที่มันอาจจะมีขั้นตอนมากขึ้นกว่าสมัยก่อน เช่น การตรวจ ATK
 

       บีชอบงานตัวเองมาก แม้แต่เพื่อนๆ ยังชมว่าการตกแต่งดูแหวกแนวดี มีความเป็นบีที่เพื่อนทุกคนสัมผัสได้ ซึ่งบีเองพอได้นึกย้อนกลับไปวันที่เห็นดีไซน์อยู่ในแผ่นกระดาษก็ว่าสวยแล้วนะ แต่พอเห็นของจริงยอมรับว่าสวยกว่าอีก แม้บางครั้งที่ยุ่งวุ่นวายอยู่ แต่พอละสายตามาเห็นการตกแต่งก็รู้สึกประทับใจและเติมเต็มความสุขได้ทุกครั้ง
 

แนะนำบ่าวสาว

ก่อนจัดงาน ทำการบ้านเยอะ ๆ  : อยากให้งานตัวเองเป็นแบบไหนก็ทำการบ้านเยอะ ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องธีมงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องการหาซัพพลายเออร์ที่ถูกใจด้วย เพราะการจัดงานแต่ง ใช้งบค่อนข้างสูง ฉะนั้น ควรเลือกเจ้าที่ทำงานออกมาให้ถูกใจ รู้สไตล์เรามากที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่เสียใจภายหลัง 

จัดงานให้สวยแบบบอกตัวตน : จากประสบการณ์ที่ได้ฟังคำแนะนำจากเพื่อน ควรจัดงานให้สวยแบบมีตัวตนของเราอยู่ในนั้น เพราะถ้าจัดงานแต่งออกมาสวยงาม อลังการ คนอื่นชื่นชม แต่ถ้าไม่มีความเป็นบ่าว-สาวเลย มันจะสวยแบบไม่มี Signature และไม่มีความสุขแบบถ่องแท้

ให้เกียรติแขกด้วยการจัดเลี้ยงอาหารให้เพียงพอ : อาหารเป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้น เราควรใส่ใจในการเลือกปริมาณอาหารให้เหลือดีกว่าขาด เพื่อถือว่าเป็นการให้เกียรติแขกที่สละเวลามาร่วมงาน ทำให้เขาอิ่มท้อง และอิ่มใจ