งานแต่งสุดอบอุ่น ด้วยโครงสร้างลายเส้นโค้งเว้า
เอิร์นอยากได้งานแต่งงานที่เป็นกันเอง ดูอบอุ่น ตั้งใจไว้ว่าอยากให้โทนงานเป็นสไตล์ชิลล์ๆ สบายๆ แขก 300 คนในงานที่เชิญส่วนใหญ่จึงเป็นคนที่เอิร์นกับเจ้าบ่าวรู้จัก แม้กระทั่งเพื่อนคุณพ่อคุณแม่ก็พยายามที่จะเลือกที่เรารู้จักเหมือนกันค่ะ
ในส่วนของการตกแต่งเอง ก็พยายามจะให้ออกมาเป็นฟีลอบอุ่น โดยได้ใช้ Inspiration มาจากตัวเอิร์นและเจ้าบ่าว คือคุณทีม(เจ้าบ่าว) เขาเป็นผู้ชายเรียบๆ มินิมอล ไม่ชอบอะไรที่เยอะ ในขณะที่ตัวเอิร์นเองจะเป็นผู้หญิงสายรุ้ง ชอบความสดใส(หัวเราะ) จึงให้โจทย์ทีมตกแต่ง Jeniva ไปว่าอยากได้ฉากเรียบๆ สีขาว แต่ต้องการให้ใช้ดอกไม้ไล่โทนหลายๆ สี มันเป็นการผสมผสานที่ให้ความรู้สึกว่าเอิร์นได้เข้าไปเติมสีสันให้คุณทีม ซึ่งทีมตกแต่งก็ไปเคาะคอนเซ็ปต์มาเป็น Nouveau blossom ค่ะ
เอิร์นไม่ได้ฟิกซ์ว่าทีมตกแต่งต้องทำแบบไหน แต่จะบอกรูปทรงที่ชอบว่าอยากได้ประมาณเส้นโค้งเว้า ที่ให้ความรู้สึกเหมือนโอบกอดกัน ดูอบอุ่น ซึ่งดีไซน์นี้ก็จะไปเข้ากับดีไซน์บ้านที่เอิร์นกับคุณทีมกำลังสร้างด้วยค่ะ
อย่างบริเวณทางเดินของสถานที่ที่เป็นเหมือนอุโมงค์อยู่แล้ว เอิร์นก็อยากให้ทำเป็นอุโมงค์แกลอรี่ไปเลย ซึ่งก็จะใช้เป็นผ้าโทนขาวครีมตัดโค้งไล่เลเยอร์ มีดอกไม้สีสันสดใสห้อยระย้า และใส่รูปเข้าไปค่ะ ส่วนตรง Backdrop ก็จะทำฉากให้มีความโค้ง เว้า หรืออย่างในห้องจัดงานเอง ส่วนของเวที ฉากก็จะมีความโค้งเข้าหากันเหมือนคนสวมกอดกันอยู่และประดับดอกไม้เข้าธีมค่ะ
งานนี้การตกแต่งขอยกเครดิตให้ทีม Jeniva เลย คือเราแค่ให้โจทย์ไป แต่เขาไปดีไซน์มาให้สวยมาก แล้วงานคือบียอนขึ้นไปมากกว่าที่เราบรีฟอีก และที่ชอบเลยคือเขาจะไปดีไซน์มาเป็นช้อยส์ให้เลือก บางอย่างพอไปลงรายละเอียดจริงก็มีเกินงบ เขาก็จะไปดีไซน์แบบต่างๆ มาให้ดูว่าถ้าตามงบได้แบบนี้ ถ้าเพิ่มงบจะได้แบบนี้ ซึ่งงานที่ออกมาก็ดีมาก จำได้เลยว่าคืนก่อนงานเอิร์นลงไปดู ขนาดยังไม่ได้ใส่ดอกไม้ เอิร์นก็ว้าวแล้วค่ะ(หัวเราะ)
เลือกสถานที่อาหารอร่อย หมดห่วงผู้ใหญ่ไม่ปลื้มงานค็อกเทล
เรื่องรูปแบบการจัดเลี้ยง จริงๆ ปกติตามสไตล์ผู้ใหญ่ส่วนมากจะไม่ชอบงานที่เป็นค็อกเทล แต่พอดีเอิร์นเคยไปงานแต่งงานที่ The Okura Prestige Bangkok(โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ) กับคุณแม่มาก่อน แล้วกลายเป็นว่าคุณแม่เหมือนจะชอบ บอกว่าอร่อย แล้วตอนที่ไปงานแต่งนั้นก็รู้สึกประทับใจสถานที่อยู่แล้ว พอเอิร์นจะแต่งงานได้ไปพูดคุยกับคุณฝน เซลล์ของสถานที่ ก็ยิ่งรู้สึกชอบ เพราะเขาน่ารักมาก คุยดี รู้สึกว่าฝากงานไว้ได้ก็เลยเลือก The Okura Prestige Bangkok แล้วก็ได้จัดเลี้ยงเป็นค็อกเทลค่ะ
สอดแทรกโมเม้นต์ดีๆ ในพิธี ด้วยคนสนิท
ช่วงพิธีการ เราก็ยังคงเน้นความสบายๆ อบอุ่น เป็นกันเอง ดังนั้นช่วงประธานอวยพร เราจึงเลือกเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักเราทั้ง 2 คนให้มาเป็นประธานค่ะ แล้วก็จะมีช่วงให้เพื่อนมาพูด Speech ด้วย เพราะเอิร์นคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้มีโมเม้นต์กับคนที่รัก แล้วก็รู้สึกว่าเพื่อนนี่แหละที่เป็นคนที่รู้เรื่องราวของเรามาตลอด เขาจะสามารถเล่าเรื่องของบ่าวสาวจากมุมของเขาให้คนที่ไม่รู้เรื่องของเราตอนอยู่กับเพื่อนๆ ได้ดีค่ะ
นอกจากนี้ เราต้องการให้แขกได้มีส่วนร่วมในงานด้วย จึงได้เพิ่มช่วงเล่นเกม Kahoot เข้ามา โดยมีรางวัลเป็นเงินสดให้แขกที่ได้ 3 อันดับแรก แล้วช่วงโยนดอกไม้เอง ก็มีแจกรางวัลให้คนที่รับได้ด้วยเหมือนกัน แขกก็จะร่วมสนุกกันเต็มเลยค่ะ(หัวเราะ)
เอิร์นเคยได้ยินเจ้าสาวบอกว่าวันแต่งงานเป็นวันที่เหนื่อย แต่สำหรับเอิร์นคือไม่เหนื่อยเลย กลับกันยังรู้สึกสนุกมาก อาจเป็นเพราะเอิร์นเป็นคนคิดมาก ก่อนวันงานจึงได้คิดหลายสเต็ป ขาดอะไร ต้องมีอะไร ค่อนข้างเตรียมพร้อม แล้วยังรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่อาจมีอะไรผิดพลาดไปบ้าง พอถึงวันงานก็เลยปล่อย แล้วโฟกัสแต่ความสุขค่ะ
สุดท้ายแล้ว วันงานของเอิร์นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนหนึ่งอาจเพราะได้ทีม Jeniva คอยช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาด้วย คือเราไม่ได้จ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ จึงมีติดขัดบ้าง อย่างการคำนวณเครื่องดื่มที่เราไม่รู้ต้องคำนวณยังไง ก็ได้ทีม Jeniva แหละมาช่วย แล้วเขาเต็มใจช่วยมากๆ ตอบไลน์เร็ว คุยดีมาก จนเรารู้สึกเหมือนเราจ้างเขาเป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์เลยค่ะ(หัวเราะ)
แนะนำบ่าวสาว
ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองต้องการอะไร : ให้จินตนาการว่าอยากให้ในงานมีอะไรบ้าง เคาะออกมาให้ชัด และค่อยๆ หาข้อมูล หาร้าน เตรียมงานเรื่อยๆ เก็บรายละเอียดตามแบบที่คิดไว้ ก็จะได้งานแบบที่ต้องการค่ะ
เลือกสถานที่แต่งงานที่เซลล์ดี : เพราะถ้าเซลล์ไม่ดี คุยแล้วไม่คลิกกัน จะทำให้การทำงานยาก แล้วเราก็ไม่สามารถรู้ว่าจะไว้ใจฝากงานได้ไหมค่ะ
Photo : Nontboxshot / E-morephoto
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
ช่างภาพ วิดีโอ:
Nontboxshotสถานที่แต่งงาน:
The Okura Prestige Bangkok