รีวิวงานหมั้นเล็กแต่อบอุ่นด้วยคนพิเศษในครอบครัว @ The St. Regis Bangkok

The St. Regis Bangkok สถานที่หรูหราและอบอุ่น

     ลูกตาลเลือกจัดงานหมั้นในปีนี้ และจะจัดงานฉลองปีหน้าค่ะ เราจัดงานหมั้นเล็ก ๆ น่ารัก เชิญสมาชิกในครอบครัวของลูกตาลและพี่คิด (เจ้าบ่าว) เพียง 9 คนค่ะ เลือกจัดที่ The St. Regis Bangkok(เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ) เพราะคุ้นเคยกับโรงแรมนี้เป็นอย่างดี เรามารับประทานอาหารและ Afternoon Tea ที่นี่บ่อย ๆ ทำให้คุณแม่และลูกตาลมั่นใจในคุณภาพของโรงแรม อีกส่วนหนึ่งคือพอลูกตาลได้เห็นห้องจัดงานจริงก็ชอบเลยค่ะ ห้องดูโปร่ง และมีแสงธรรมชาติจากด้านนอกทำให้ดูอบอุ่น ทั้งยังมองเห็นวิวเมืองสวย ๆ ก็คิดว่าน่าจะเข้ากับสไตล์งานของเราได้ดีค่ะ

ห้องพักบ่าว-สาว ควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทีมงานต่างๆ

       ในวันจัดงาน ลูกตาลคิดว่าห้องพักบ่าว-สาวสำคัญมาก ไม่เฉพาะสำหรับเราเท่านั้น แต่สำหรับทีมงานต่าง ๆ ด้วยค่ะ ลูกตาลเลือกห้องพักไทป์ John Jacob Astor Suite ที่มีขนาดห้องกว้างขวางพอสำหรับครอบครัวและทีมงานกว่า 23 ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทีมช่างภาพ ทีมเมคอัพ ทีมชุดไทย ทุกคนอยู่รวมกันในห้องนี้และทำงานของตัวเองได้อย่างสบาย ไม่อึดอัดค่ะ

งานหมั้นธีมสีพาสเทลอบอุ่นละมุนตา

       ลูกตาลตั้งใจให้งานเรียบหรู ดูสบายตา และยังคงความอบอุ่นในแบบฉบับครอบครัวไว้ได้ ซึ่งงานนี้เน้นตกแต่งด้วยดอกไม้จริงโดยเน้นสีพาสเทลเป็นหลัก และเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากันกับสไตล์ของงาน ซึ่งโรงแรมจัดการให้ทั้งหมดค่ะ

       การตกแต่งนั้นจะมีฟลาวเวอร์สแตนด์ตรงจุดทำพิธี ส่วนจุดรับตัว ใช้มุมริมผนังกระจกใสที่เห็นวิวเมืองด้านนอก เพิ่มชีวิตชีวาด้วยแจกันหลากขนาดที่ประดับดอกไม้วางไว้บนโต๊ะเล็กข้างเก้าอี้ นอกจากนี้ เรายังจัดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ Long Table เตรียมไว้ และตกแต่งด้วยแจกันใส่ดอกไม้วางเรียงกันเป็นแนวยาว เพื่อให้บรรยากาศดูสบายตายิ่งขึ้น

       สิ่งสำคัญที่ต้องมีในงานนี้ก็คือภาพวาดของคุณตาคุณยายค่ะ อันที่จริง ลูกตาลตั้งใจจัดงานหลังสถานการณ์โควิด-19 จบแล้ว เพื่อที่จะให้คุณตาและคุณยายมาร่วมงานด้วยได้ค่ะ แต่สุดท้ายท่านก็จากไปด้วยโควิด-19 เราจึงนำภาพท่านมาไว้ในงาน โดยตั้งไว้บนโต๊ะเล็กใกล้จุดทำพิธี เพื่อให้รู้สึกว่า ท่านทั้งสองได้มาร่วมงานในวันนี้ ตามความตั้งใจเดิมของลูกตาลและครอบครัวด้วยค่ะ

งานหมั้น พิธีการครบถูกใจผู้ใหญ่ ได้รอยยิ้มกันถ้วนหน้า

       สำหรับพิธีงานหมั้นของเราเป็นแบบไทย-จีนค่ะ และเนื่องด้วยคุณพ่อและคุณแม่อยากให้มีพิธีการครบ โดยที่เราเองก็เห็นว่าแต่ละพิธีการมีเรื่องราวและความหมายที่ดี ก็เลยเห็นตรงกันที่จะจัดงานออกมาในรูปแบบนี้ค่ะ

       พิธีการแรกเริ่มที่เจ้าบ่าวจะต้องเดินผ่านประตูเงินประตูทอง ซึ่งแค่นำมาเป็นกิมมิกเฉย ๆ ค่ะ (หัวเราะ) เพราะไม่มีขบวนแห่ขันหมาก จากนั้น เจ้าบ่าวเข้าไปเจรจาสู่ขอกับผู้ใหญ่ แล้วเดินออกมารับตัวเจ้าสาวที่อยู่อีกห้อง จากนั้นเราสองคนไปอีกห้องเพื่อทำพิธีหมั้น สวมแหวน มอบสินสอด ยกน้ำชา และทานขนมอี๋ ซึ่งเราให้ความสำคัญเรื่องรสชาติขนมมาก ถึงขั้นไปตามหาเจ้าที่อร่อยให้คนในครอบครัวได้ชิมกันก่อนเลยค่ะ และระหว่างทำพิธี พอมีแค่คนในครอบครัว ลูกตาลที่หิวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงขอทางผู้ใหญ่ว่า ขอไม่ทานเอาเป็นพิธี ขอทานจริงจังเลยนะ จังหวะนี้ก็เลยจัดไปหลายคำค่ะ (หัวเราะ)

       พอจบพิธีนี้ ถึงต่อด้วยพิธีสงฆ์ รดน้ำสังข์และจดทะเบียน จากนั้นก็ลงไปนั่งรถ CABB (แค็บบ์) ซึ่งเป็นรถทรงเดียวกับลอนดอนแท็กซี่ ที่เลือกรถรุ่นนี้เพราะทำให้นึกถึงช่วงที่ลูกตาลเรียนอยู่ประเทศอังกฤษค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นกิมมิกให้คนในครอบครัวถ่ายรูปเล่นกันได้ด้วย

       เมื่อเสร็จจากกิจกรรมด้านล่าง เราก็ขึ้นไปบนห้องเพื่อทำพิธีส่งตัวอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็ลงมาทานข้าวด้วยกันในแบบครอบครัว เราเลือก Western Set แบบ Full Course เริ่มด้วยเมนูสตาร์ทเตอร์ ซุปซีฟู้ดกับมายองเนสกระเทียมเคียงคู่ขนมปังกรอบกรูตองซ์  ส่วนเมนูจานหลักนั้นสามารถเลือกตามความชอบได้ อย่างเช่น เมนูสเต๊กเนื้อวากิว ถ้าไม่ชอบเนื้อ ก็มีเมนูปลาหิมะที่ปรุงให้ร้อน ๆ ตบท้ายด้วยขนมหวานอย่างพานาคอตต้าส้มคู่กับเคปกู๊สเบอรี่ ไอศครีมราสป์เบอร์รีซอร์เบต ซึ่งเราก็ดีใจที่ทุกคนบอกว่าอาหารอร่อย ชื่นชอบกันมาก ๆ

ใส่ชุดไทยยกครอบครัว ดูสวยและมีคุณค่า

       แม้จะมีพิธียกน้ำชา แต่เราไม่ได้เปลี่ยนมาใส่ชุดหมั้นจีนหรือกี่เพ้า เพราะส่วนตัวมองว่าการที่ยังคงใส่ชุดไทยทำพิธี มันไม่ได้ทำให้แก่นของความหมายของพิธีการยกน้ำชาเปลี่ยนแปลงเลย จึงเลือกใส่ชุดเดิม โดยที่ครอบครัวก็โอเคด้วยค่ะ

       ที่สำคัญ เราตั้งใจให้ครอบครัวทั้งสองฝ่าย สวมใส่ชุดไทยทั้งหมด บ้านฝั่งเจ้าสาวสีฟ้า และบ้านฝั่งเจ้าบ่าวสีชมพู เวลาได้เห็นทุกคนใส่ในธีมเดียวกันมันดูสวยและสง่างาม อีกทั้งเราชอบเสน่ห์ของผ้าไหมไทยที่เวลาขยับท่วงท่าใด ๆ ก็ตาม ความเงาของเนื้อผ้ามันทำให้เรารู้สึกว่าผ้ามีชีวิตด้วยค่ะ

ความประทับใจเต็มเปี่ยม ทุกทีมงานยอดเยี่ยม ช่วยให้งานเป็นดั่งฝัน

       เราค่อนข้างให้ข้อมูลละเอียดและชัดเจนเพื่อให้ทีมซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ทำงานง่ายขึ้น ประกอบกับทุกทีมงานมีความเป็นมืออาชีพ จึงทำให้ทุกอย่างราบรื่นตั้งแต่แรก เช่น ความละเอียดใส่ใจของทีมชุดไทย ช่างภาพที่มีความมืออาชีพ ในช่วงเวลาที่เราทำพิธีใด ๆ เขาไม่ส่งเสียงรบกวนหรือขัดจังหวะ แต่ขณะเดียวกันเขาก็ยังสามารถเก็บโมเมนต์ต่าง ๆ ได้ในแบบที่เราชอบด้วย

       ต่อมา ในส่วนของโรงแรม คุณเบนและทีมงานน่ารักมากค่ะ คอยช่วยเหลือและดูแลเราอยู่เสมอ ที่สำคัญ เราเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาในการพยายามทำงานเราให้ราบรื่นที่สุด รวมถึง พิธีกรยังสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีด้วยค่ะ

       สุดท้ายก็ต้องขอบคุณทุกทีมที่แม้จะมาจากต่างที่ต่างถิ่น แต่ทุกคนสามารถมาร่วมงานกันได้อย่างเป็นทีมเวิร์คมาก ๆ  ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะจัดงานแบบนี้ทุกปีเลยค่ะ (หัวเราะ)

แนะนำบ่าวสาว

ถามตัวเองให้ชัดว่าต้องการให้งานเป็นแบบไหน : ในช่วงเตรียมงานเราควรดูความต้องการของตัวเองให้ชัดเจนว่าอยากได้อะไร ลงรายละเอียดไปในทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม อาหารจัดเลี้ยง ชุดเจ้าสาว รวมถึงชุดของทุกคนในครอบครัว ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ทำผม ไปจนถึงพิธีกร เพราะถ้าเราชัดเจน พอถึงเวลาที่คัดทีมงานจะได้ในแบบที่ชอบ และควรพิถีพิถันในการหาทีมที่มีความเป็นมืออาชีพตั้งแต่แรก แล้ววันงานเรื่องผิดพลาดจะน้อยลง และเมื่อวันจริงมาถึง ก็อยากให้รื่นรมย์ โดยถือคติที่ว่า ซีเรียสเป๊ะในช่วงเตรียมการ ส่วนวันงานให้รื่นรมย์และยืดหยุ่นค่ะ

อยากให้ทุกคู่มีสไตล์เป็นของตัวเอง : การแต่งงานไม่มีสูตรตายตัว อยากจัดงานสไตล์ไหนก็จัดเลย ถ้างานแต่งมีสไตล์ที่มีความเป็นตัวเองของคู่บ่าว-สาว เวลาคิดถึงแล้วย้อนกลับมาดู เราจะพบแต่เรื่องราวดี ๆ และความสุขที่ซ่อนอยู่ในนั้น

ชุดไทย : ชุดไทยจันทร์โสมา โดย อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย