รีวิวงานแต่งอบอุ่นโฮมมี่ จัดไพรเวทเรียบง่ายแขกแค่ 60 คน @ Sriwiang Heritage House

วิธีเตรียมงานแต่งของบ่าวสาวสาย Blank เริ่มจากศูนย์

       หลังจากมีแพลนจะแต่งงาน บอกเลยว่ามิ้มกับพี่ณัฎฐ์(เจ้าบ่าว) Blank มาก ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มเตรียมอะไรก่อนหลังเลยค่ะ แล้วพอดีมิ้มรู้จักพี่ต่าย SabuyWedding มานานแล้ว รู้ว่าพี่เขารับงานแพลนเนอร์ด้วย แล้วเว็บ SabuyWedding ก็รวมร้านค้าเกี่ยวกับงานแต่งไว้เยอะ เลยทักไปปรึกษาทั้งเรื่องการเตรียมงานและเลือกร้านค้าค่ะ

       ตอนที่คุยกัน พี่ต่ายจะถามคำถามและให้โจทย์มา ทำให้เรารู้ว่ามีบางอย่างที่ต้องกลับไปคุยกับผู้ใหญ่ให้เข้าใจก่อน แล้วยังช่วยชี้ให้เห็นถึงเรื่องที่ต้องไปตกลงและถามความคิดเห็นของผู้ใหญ่ทั้ง 2 ครอบครัวเพื่อความสบายใจทุกฝ่ายด้วย ซึ่งช่วยให้เราสโคปงานได้ง่ายขึ้นมากเลยค่ะ มิ้มกับพี่ณัฎฐ์ได้ข้อสรุปสิ่งที่ต้องการในงานแต่ง ทั้งรูปแบบงาน พิธีการที่ต้องการทำ จำนวนแขกและงบประมาณ ซึ่งข้อมูลตรงนี้สำคัญมากนะคะ เพราะจะช่วยให้การทำงานในขั้นต่อไปง่ายขึ้นมากๆ 

       หลังจากกำหนดสิ่งที่ต้องการได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการหาสถานที่และร้านค้าค่ะ ตรงนี้แน่นอนว่าเราก็ให้พี่ต่ายที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้มาช่วย ซึ่งพี่ต่ายจะถามความชอบ งบของเรา แล้วลิสต์ชื่อร้านต่างๆ ที่ตรงความต้องการของเรามาให้เป็น Option ของร้านเลยค่ะ หน้าที่ของเราคือแค่ไปพูดคุยกับร้านเพื่อเลือกที่ถูกใจต่อเอง สะดวกมากเลย

       ร้านที่พี่ต่ายแนะนำมา ต้องบอกว่าตรงใจมาก เหมือนพี่เขาเข้าใจสิ่งที่บ่าวสาวต้องการ อย่างส่วนของสถานที่ งานเรามีแขก 60 คน อยากได้งานเล็กๆ อบอุ่น จริงๆ เรามีไปหามาเองแล้ว แต่ไม่มีที่ถูกใจเลย จนพี่ต่ายเอารูปของ Sriwiang Heritage House(ศรีเวียง เฮอริเทจ เฮ้าส์) มาให้ดู เราชอบมากค่ะ จึงไปดูสถานที่จริง ซึ่งสวยมาก สวยจนรู้สึกว่าแม้ได้ทีมช่างภาพที่ไม่ดี แต่ถ่ายรูปออกมายังไงก็ดีแน่นอน เลยตัดสินใจเลือกจัดงานที่นี่ค่ะ(หัวเราะ)

สถานที่สวย ไม่ต้องแต่งเยอะก็ปังได้

       ในส่วนของการตกแต่งจริงๆ เราแทบไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะสถานที่สวยมากๆ อยู่แล้ว อย่างธีมสี เราจะไม่ได้กำหนด เพียงแค่บอกทีมตกแต่งว่างานเราเป็นพิธีจีน เจ้าสาวใส่ชุดสีแดง เจ้าบ่าวใส่ชุดสีน้ำเงิน ให้จัดงานที่ดูเข้ากัน กลมกลืนแค่นี้เองค่ะ ซึ่งก็จะมีการประดับดอกไม้หลักๆ ตรงซุ้ม Backdrop หน้างานกับตรงที่ทำพิธีเท่านั้น ส่วนแกลอรี่เราก็ไม่มี เพราะจะใช้เป็นรูปแคนวาสตั้งเพียง 3 จุด คือตรงทางเข้า ในบริเวณงาน และตรงบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ

งานอบอุ่นกับคนสนิทที่มีการ์ดเชิญ

       งานแต่งงานที่เราเคยเห็นปกติจะใช้วิธีประกาศ ใครอยากมางานก็มาได้เลย แต่ด้วยเรื่องของสถานการณ์โควิด 19 เราจึงรู้สึกว่าควรจำกัดคนดีกว่า เชิญเฉพาะแขกคนสนิทที่อยากมา คนมาต้องมีการ์ดเชิญเท่านั้นเลยค่ะถึงเข้างานได้ ส่วนเพื่อนบางคนที่ไม่ได้มา เราก็ขออภัยและจะจัดเป็นทานข้าวกันนอกรอบอีกครั้งค่ะ

       ซึ่งสำหรับพิธีการในงานนี้เรียบง่ายมาก เพราะจัดเป็นพิธีสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ ทำพิธีสวมแหวนและยกน้ำชาจีนแค่นี้เลยค่ะ จะมีที่พิเศษขึ้นมาคือมีช่วงที่เราเซอร์ไพรส์มอบเค้กวันเกิดเล็กๆ ให้คุณแม่พี่ณัฎฐ์ด้วยเท่านั้น ก็เป็นอีกหนึ่งโมเม้นต์ที่น่ารักดีค่ะ

       แต่แม้พิธีจะสั้นเรียบง่าย จริงๆ ก็แอบมีเรื่องตื่นเต้นหน้างานนะคะ คือบ่าวสาวลืมของขวัญคุณแม่ไว้ที่บ้านค่ะ(หัวเราะ) เราจึงใช้วิธีแก้ปัญหาโดยเรียกแมสเซนเจอร์ไปเอาของให้ ตรงนี้โชคดีที่เรามาเตรียมงานกันเช้ามาก และทีมพี่ต่ายก็มาช่วยรันคิว เช็คลิสต์รายการเตรียมความพร้อมให้ก่อน ทำให้เรารู้ว่าของอะไรขาดหายไปบ้าง ประสบการณ์ตรงนี้ขอแนะนำบ่าวสาวเลยค่ะว่าควรมี Checklist เลย เพราะช่วยได้มากจริงๆ 

       งานนี้ออกมาโฮมมี่แบบที่ต้องการเลย บรรยากาศดีมาก แล้วพิธีการต่างๆ ก็สมูทไหลลื่น ผ่านไปด้วยดี ตรงนี้ต้องชมทีมพี่ต่ายเลยค่ะ เพราะมีมาช่วยติวให้ญาติผู้ใหญ่ก่อนขึ้นเวทีด้วย แถมมีสคริปต์คำพูดและขั้นตอนบอกว่าบ่าวสาวต้องทำอะไรยังไงให้ได้เตรียมตัวด้วย ช่วยได้มากเลยค่ะ 

       แล้วที่ประทับใจเลยคือการทำงานของพี่ต่าย ตั้งแต่แรกที่เริ่มจากการนัดมิ้มกับพี่ณัฎฐ์ไปคุยรายละเอียดแล้ว พี่ต่ายจะมีคำถามที่ช่วยให้เราเข้าใจความต้องการตัวเอง และรู้ว่าต้องไปคุยอะไรกับครอบครัวบ้าง มียกตัวอย่างงานอื่นๆ ให้เห็นภาพว่าอะไรที่ควรเน้น ควรไปถามความเห็นผู้ใหญ่ให้ชัดเจน เพื่อการเตรียมงานขั้นต่อไปที่ง่ายขึ้น ซึ่งงานนี้บอกเลยว่ากว่า 90% คือพี่ต่ายทำให้หมดเลย จะมีแค่เรื่องจ่ายเงินที่เราจัดการเองค่ะ(หัวเราะ)

แนะนำบ่าวสาว

คุยสรุปงานให้เข้าใจก่อน : คุยให้ชัดว่าผู้ใหญ่ต้องการอะไร บ่าวสาวต้องการอะไร ลิสต์มาให้หมด เราอยากทำอะไร สิ่งไหนทำให้ผู้ใหญ่ได้ แล้วหาตรงกลางให้เจอ จากนั้นเอาไปคุยกับทีมออแกไนเซอร์ก็จะทำให้ง่ายต่อการทำงานขั้นต่อไปค่ะ 

ออแกไนเซอร์ช่วยเตรียมงานง่าย : บ่าวสาวที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่อยากยุ่งยากกับการเตรียมงานเอง การมีออแกไนเซอร์มาช่วยจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย

ทำ Checklist ก่อนออกจากบ้าน : เป็นการเตรียมความพร้อมที่ช่วยได้มาก เพราะถ้าไปถึงหน้างานแล้วเพิ่งรู้ว่าลืมของจะค่อนข้างวุ่นวายค่ะ