รีวิวงานแต่ง Modern Natural จัดสวยมีกิมมิคจากชื่อเจ้าสาว By Loveindeed @ Siam Kempinski Hotel Bangkok

จัดงานแต่งตามสเต็ป เพื่อการเตรียมงานที่ง่าย

       มีนกับพี่เก่ง(เจ้าบ่าว) จัดงานเช้ากับเย็นแยกวันแยกสถานที่กัน จึงตัดสินใจใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์เข้ามาช่วยเพื่อให้การเตรียมงานสมูทและทั้ง 2 งานมีความเชื่อมโยงกัน แล้วพอดีเลขาพี่เก่งรู้จักกับทีม Loveindeed The Wedding Planner & Decoration Organizer ซึ่งพอได้พูดคุยกันแล้ว พี่โอ๊คที่เป็นเจ้าของน่ารักมาก คุยง่าย สามารถตกแต่งงานได้ด้วย แล้วที่ชอบเลยคือเขารับฟังเรา สิ่งที่เขาออกแบบมา ถ้าเราไม่ชอบตรงไหน สามารถให้ปรับได้ตลอดจนกว่าจะพอใจ ที่สำคัญคือเขามีการ Add on บางอย่างเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มให้เพื่องานที่ดูสมบูรณ์มากขึ้นด้วยค่ะ ทำให้เราเลือกใช้ทีมนี้เลยค่ะ

       ตอนเตรียมงาน สิ่งแรกที่เราทำคือหาสถานที่ค่ะ เพราะมีทั้งเรื่องของสถานที่ที่ถูกใจ วันฤกษ์ดีและวันคิวว่าง ประกอบกับเราตั้งใจจัดงานเช้ากับงานเย็นแยกวันและแยกที่กัน ซึ่งการจะได้ทุกอย่างที่ต้องการมันค่อนข้างยาก เราจึงให้ความสำคัญกับการหาสถานที่มากที่สุด 

       หลังจากได้สถานที่แล้ว เราก็มาคิดคอนเซ็ปต์งานที่อยากได้ แล้วค่อยไปหาร้านค้าอื่นๆ ที่เข้ากับความต้องการต่อ ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพ ชุดแต่งงาน การ์ด ของชำร่วย ซึ่งการทำแบบนี้ช่วยให้เตรียมงานได้ง่ายขึ้นมากๆ เลยค่ะ แล้วด้วยความที่เราได้พี่โอ๊คช่วยแนะนำและคุยกับร้านให้ ก็เลยยิ่งเลือกร้านได้เร็วขึ้นค่ะ

งานเช้าสไตล์ไทย เพิ่มความน่าสนใจด้วยโขน

       งานเช้าเราอยากได้แนวธรรมชาติ จึงเลือกสถานที่เป็น Nai Lert Park(ปาร์คนายเลิศ) ที่มี Glass house ในสวนล้อมรอบด้วยต้นไม้ ซึ่งงานนี้เราจะจัดเป็นพิธีไทยใน Glass house จึงอยากตกแต่งสไตล์ไทยๆ ทีม Loveindeed ก็คือจัดให้ไทยมากๆ สมใจเลยค่ะ(หัวเราะ) โดยจะใช้เป็น Earth Tone สีชมพูอ่อน สีเขียวอ่อน สีโทปน้ำตาลเทาเป็นหลัก แล้วเราอยากได้ความสบายตา เลยใช้ดอกไม้เป็นสีขาวทั้งหมด แล้วด้วยมีนชอบดอกไม้เล็กๆ จึงใช้เป็นพวกดอกเดซี่ดอกยิปโซค่ะ 

       นอกจากนี้ที่พิเศษขึ้นมาคือพอดีชื่อมีนแปลว่าปลา พี่โอ๊ค ทีม Loveindeed ก็น่ารักมาก ไอเดียดีมาก สานปลาตะเพียนใส่ลงไปตามจุดต่างๆ ให้ ได้เป็นกิมมิค แถมเพิ่มความเป็นไทยๆ ได้มากขึ้นด้วยค่ะ(หัวเราะ) อีกส่วนก็คือเราไม่มีแกลอรี่ แต่ได้อัดรูปมีนกับพี่เก่งถือกิ่งไม้แห้งตั้งไว้หน้างาน เพื่อให้แขกมาแสตมป์นิ้ว ซึ่งที่ทำแบบนี้เพราะคนที่มางานเป็นคนที่มีส่วนร่วมในชีวิตของเรามาตลอด เลยอยากให้เขามาช่วยแต้มสีสันกิ่งไม้ของเราที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตค่ะ 

       ช่วงพิธีการนอกจากพิธีที่เราจัดแบบไทยจ๋า มีพิธีสงฆ์ รดน้ำสังข์ หมั้นสวมแหวน และรับไหว้นิดหน่อย เรายังมีการนำโขนเข้ามาด้วยนะคะ คือด้วยเจ้าบ่าวกลัวงานเงียบ หาคนโห่ช่วงแห่ขันหมากไม่ได้แล้วงานจะกร่อย ตอนแรกก็อยากได้แค่กองนำขบวน แต่พี่โอ๊คแนะนำให้เพิ่มโขนที่ช่วยเสริมบรรยากาศไทยๆ มา ก็เลยได้โขนเป็นรจนากับเงาะป่า ซึ่งนอกจากตอนแห่ขันหมากแล้ว ก็ยังมีการแสดงโขนสั้นๆ ช่วงบ่าวสาวไปเปลี่ยนชุดสำหรับพิธีหมั้นและรับไหว้ให้แขกดูด้วย งานนี้แขกชอบกันมากเลยค่ะ 

งานเย็นสวยเด่น จัดเต็มสไตล์สวน

       สำหรับงานเย็นเราเลือก Siam Kempinski Hotel Bangkok(โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ) เพราะโลเคชั่นอยู่ในย่านที่ญาติเดินทางมาสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า และมีห้องบอลรูมที่รองรับแขก 500 คนของเราได้ 

       ซึ่งงานนี้ก็จะตกแต่งสไตล์สวน เน้นต้นไม้และใช้โทนสีขาวเขียวเหมือนเดิมค่ะ โดยตั้งแต่หน้างานจะทำเหมือนทางเดินในสวนเลย มีต้นไม้ตามทางเข้าไปถึงด้านใน แล้วเราจะไม่ทำแกลอรี่เพราะรู้สึกว่ารูปใหญ่ไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ไหน แต่ถ้าเป็นรูปเล็กก็ยังเก็บไว้ในอัลบั้มได้ เราจึงมีรูปใหญ่แค่รูปเดียว มีรูปถือกิ่งไม้ของงานเช้าอีกรูป และทำการ์ดขนาด 4x6 นิ้ว มีรูปแนวนอนและช่องสำหรับเขียนอวยพร เหมือนหน้า Facebook ซึ่งพอแขกเขียนเสร็จก็จะนำไปแขวนตามต้นไม้ เป็นเหมือนสมุดเซ็นอวยพรและได้อาร์ตแกลอรี่ไปในตัวเลยค่ะ

       ส่วน Backdrop หน้างานกับเวทีก็จะตกแต่งคล้ายๆ กัน คือใช้ฉากหลังเป็นม่านสีขาว แล้วประดับด้วยต้นไม้ดอกไม้สีขาวเขียว แต่เวทีจะพิเศษขึ้นมาหน่อยตรงที่มีวงแหวนขนาดใหญ่ห้อยเส้นคริสตัลลงมาให้ดูเรียบหรู แล้วตามทางเดินในห้องก็จะมีพุ่งไม้เล็กๆ ตลอดทางค่ะ

       งานเราไม่ค่อยเน้นพิธีเท่าไหร่ จะมีเปิดตัวบ่าวสาวเข้างาน ประธานขึ้นพูด มีช่วงสัมภาษณ์ ตัดเค้กและโยนดอกไม้แบบงานปกติเลย แค่ช่วงโยนดอกไม้จะเปลี่ยนเป็นโยนช่อตุ๊กตาแทน เนื่องจากมีนเป็นหมอเด็กค่ะ ก็เป็นอีกหนึ่งกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ(หัวเราะ)

       วันงานทุกอย่างผ่านไปเรียบร้อยด้วยดีมากๆ แขกทุกคนแฮปปี้จนจบงาน แล้วยิ่งงานเย็นที่เราได้นำ Photo Booth ปรินต์เป็น Magnet ได้เข้ามาให้เล่นด้วย แขกก็ยิ่งเอนจอยเลยค่ะ แต่ถ้าให้พูดถึงอุปสรรค จริงๆ มีแค่เรื่องการเลื่อนงานกับการลดจำนวนแขกแค่นั้นค่ะ เพราะเราต้องมาแก้การ์ด แจ้งข่าวแขกใหม่ และจัดการกับการเชิญแขก 

       โชคยังดีที่เรายังไม่ได้แจกการ์ด แล้วพี่โอ๊คก็ช่วยให้คำแนะนำต่างๆ อย่างเรื่องการ์ดก็บอกว่ารอชัวร์แล้วค่อยพิมพ์ หรืออย่างตอนจัดการกับแขก ก็ใช้วิธีแบ่งแขกไปคนละงาน โดยให้แขกเลือกงานที่สะดวกเอง ซึ่งส่วนมากผู้ใหญ่จะไปงานเช้า เด็กจะไปงานเย็น แล้วด้วยสถานการณ์โควิดแบบนี้ทุกคนก็เข้าใจ ทำให้จัดการเรื่องนี้ง่ายขึ้นค่ะ 

       งานทั้ง 2 วันของเราสมูทมากๆ ทุกคนแฮปปี้ เรารู้สึกดีและประทับใจทุกอย่างเลยค่ะ โดยเฉพาะทีม Loveindeed เขาน่ารัก ดูแลเราดี ให้คำปรึกษาได้ และเป็นมืออาชีพมากๆ อะไรที่น่าจะเป็นปัญหา เขาจะใช้ประสบการณ์ช่วยดูและให้คำแนะนำ ด้านการตกแต่งก็ออกมาโอเค สวยหรูดูแพงกว่าที่คิดไว้มากๆ มีนชอบที่เขาใส่ใจรายละเอียด แล้วประสานงานดี แม้งานของเราจะเลื่อนวันจากเดิมถึง 1 ปี ก็ไม่มีเงียบหาย ช่วยตามงานร้านค้า ติดต่อโรงแรมให้เป็นระยะ เป็นทีมที่ดีมากจริงๆ จนตอนนี้ที่งานจบไปแล้ว เรายังติดต่อกันอยู่เลย เหมือนได้เพื่อนเพิ่มมาเลยค่ะ(หัวเราะ)

แนะนำบ่าวสาว

เลือกเวดดิ้งแพลนเนอร์ที่พูดด้วยแล้วสบายใจ : เพราะเราจะกล้าปรึกษา พูดคุย บอกความต้องการได้ทุกอย่าง แล้วทำให้งานที่ออกมาตรงใจเราที่สุดค่ะ  

มีคอนเซ็ปต์งานให้ชัดเจน : ระหว่างที่เตรียมงานจะช่วยให้เราไม่ไขว้เขว และแนะนำว่าควรบอกความต้องการกับแพลนเนอร์ไปตรงๆ เขาจะได้ช่วยหาสิ่งที่ตรงกับความต้องการของเราให้ได้มากที่สุดค่ะ