รีวิวงานแต่ง 'หมั้นบ่ายเลี้ยงเย็น' สวย สะดวกแบบครบสูตร! @The Landmark Bangkok

The Landmark Bangkok สถานที่แต่งงานที่เชื่อใจได้ในความเป็นมืออาชีพ
         นุ้ยเลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรม The Landmark Bangkok (โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ) เพราะรู้จักชื่อเสียงของที่นี่มานานแล้วค่ะ ญาติผู้ใหญ่เองก็แนะนำโรงแรมนี้ ขึ้นชื่อมากๆ เรื่องอาหารอร่อย
          ตัวสถานที่จัดงานดี มีครบทั้งห้องบอลรูมและห้องจัดงานหมั้นในชั้นเดียวกัน มีความเป็นส่วนตัว เราจัดงานแล้วเหมือนได้พื้นที่ทั้งฟลอร์ มั่นใจได้ว่าไม่ปะปนกับงานอื่นๆ ประทับใจทั้งตัวโรงแรม เซลล์ พนักงาน เซอร์วิส ไปจนถึงพริวิลเลจที่มีให้กับบ่าวสาวเลยค่ะ

         การจัดงานที่โรงแรมนี้ เราจะมีเซลล์ที่คอยช่วยดูแลและแนะนำเราทุกเรื่อง อย่างคู่ของนุ้ยเอง เราไม่รู้ว่าจะหาออแกไนซ์ตกแต่งงานจากที่ไหน เขาก็จะช่วยแนะนำให้ ไกด์เราทุกอย่างว่าต้องเตรียมงานยังไง มีองค์ประกอบอะไรที่ต้องเริ่มทำช่วงไหนบ้าง เพื่อให้งานครบถ้วนไม่ตกหล่น
         นุ้ยชอบที่พอจองแพ็กเกจแต่งงานกับทางโรงแรมแล้ว ทีมงานไม่ได้หายไปเลย ตลอดการเตรียมงานเขาจะมีนัดเข้าไปคุยเป็นระยะๆ วันที่มีการจัดงานจริง เขาก็จะเชิญเราเข้าไปดูสถานที่ เพื่อให้เห็นว่าพอถึงงานของเราบ้าง ภาพรวมจะออกมาเป็นยังไง ทำให้เราอุ่นใจในความเป็นมืออาชีพของเขาจริงๆ ค่ะ

         สำหรับเรื่องโลเคชั่นของโรงแรม นุ้ยถือว่าเดินทางสะดวก ใกล้กับรถไฟฟ้าสถานีนานา เดินนิดเดียวถึง หรือถ้าใครนำรถมาก็ไม่มีปัญหา เขามีที่จอดรถเพียงพอค่ะ
         งานของนุ้ยเราจัดกันแบบสบายๆ เริ่มที่งานหมั้นช่วงบ่าย แบบเน้นฤกษ์สะดวก วิธีนี้ดีกับการรันงานต่อเนื่องไปยังช่วงฉลองตอนเย็น แขกที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดก็ไม่ต้องรอนาน แถมบ่าวสาวเราแต่งหน้าทำผมรอบเดียวเสร็จ เหลือแค่ทัชอัพเท่านั้น ช่วยเซฟงบไปได้อีก บ้านไหนที่ยืดหยุ่นเรื่องฤกษ์ได้ คุยกับคุณพ่อคุณแม่แล้วโอเค นุ้ยแนะนำเลยค่ะ

จัดงานบรรยากาศสบายๆ ได้อารมณ์ Glasshouse
         เราใช้พื้นที่ส่วนของห้อง Conservatory ที่เป็นห้องเรือนกระจกในการจัดงานหมั้น นุ้ยชอบห้องนี้ตรงที่แสงเข้ามาเยอะ ซึ่งเป็นแสงธรรมชาติ ทำให้ถ่ายรูปออกมาแล้วดูสวยลงตัวมาก แถมยังรองรับแขกของเราได้กำลังดี ไม่อึดอัด ขนาดเราจัดงานช่วงบ่ายก็ไม่ร้อน เขามีม่านกรองแสงให้อีกชั้น สบายๆ ค่ะ นอกจากนี้ห้องนี้ยังสามารถเปิดเรียงกัน 3 ห้องได้ จะใช้ห้องข้างๆ เป็นห้องรับตัว ให้เจ้าสาวไปแอบก่อนก็สะดวกมากๆ ค่ะ

ครบสูตรความสะดวกและราบรื่นในที่เดียว
         พิธีการต่างๆ ที่เราจัดในวันนั้น เราไม่ได้จ้างนายพิธีเลย เพราะเซลล์ของโรงแรมจะช่วยเราในการส่งสคริปต์ แจ้งลำดับงานมาให้ ละเอียดระดับมาเป็นไทม์ไลน์ โดยที่เราเชื่อถือได้ เพราะเขามีประสบการณ์ จัดงานแต่งมาเยอะจริงๆ
         นอกจากนี้อีกเรื่องที่นุ้ยประทับใจคือเราไม่ต้องจ้างออแกไนเซอร์ จะมีเจ้าหน้าที่โรงแรมแจ้งเราล่วงหน้าก่อนถึงวันงาน ว่าวันจริงจะมีใครมาดูแลรับผิดชอบเราในส่วนไหนบ้าง แล้วเขาดูละเอียดทุกจุด เจ้าสาวนั่งตรงไหน ขันหมากเริ่มตั้งยังไง ใครทำอะไรก่อนหลัง ช่วยให้ทุกอย่างราบรื่น ชัดเจน หายห่วง ผ่านไปได้เรียบร้อยดีจริงๆ ค่ะ

         ลำดับงานจริงของเราจะเริ่มจากการแห่ขันหมาก ผ่านด่านกั้นประตูแล้วก็จะมีพิธีสู่ขอ โรงแรมจะจัดเตรียมดอกไม้ช่อนึงไว้ให้สำหรับรับตัวเจ้าสาว หลังจากนั้นก็จะเป็นพิธีแลกแหวน ทีมงานมาจัดโซฟาให้ใหม่เพื่อให้เหมาะกับพิธีรับไหว้ ซึ่งเราเตรียมชุดชามตะเกียบไว้สำหรับญาติผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสายสิญจน์ที่เตรียมมาเอง เพื่อให้ผู้ใหญ่ให้พรด้วยค่ะ

ห้องบอลรูมไซส์ใหญ่ กับอาหารที่ดีที่สุดใจกลางกรุง
         งานฉลองของเราจัดกันในห้องบอลรูม ตัวห้องเป็นทรงยาว จุแขกได้เยอะมาก งานของนุ้ยแขก 350-400 คน รองรับได้สบายๆ ค่ะ แถมยังมีจอฉายภาพหลายจอ ทุกคนเห็นได้ชัดเจนเวลาที่เราฉายพรีเซนเทชั่น และต้องชมเรื่องการจัดวางไลน์อาหารค็อกเทล ซึ่งโรงแรมทำได้ดีมาก เซลล์ก็จะช่วยแนะนำเลยว่าเราควรสั่งอะไร ปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนแขก แขกชมกันหมดว่าอาหารอร่อยมาก มีเชฟมาทำให้ทานสดๆ ทุกคนมีความสุขค่ะ

         งานตกแต่งเราเน้นเลือกโทนสีเขียวครีมทองเป็นหลัก เพื่อให้เข้ากับพรมโรงแรมค่ะ มีของชำร่วยที่เราทำเองเป็นชุดปลูกต้นไม้ มีเมล็ด ดิน กระถาง ใยมะพร้าว แล้วจะมีการ์ดบอกความหมายของดอกไม้แต่ละชนิด เช่น ดอกบานไม่รู้โรย ดอก Forget Me Not
         ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือโรงแรมจะช่วยตกแต่งด้านในห้องจัดเลี้ยงให้ ทั้งเวที ดอกไม้และเค้ก โต๊ะอาหาร เหมือนเซฟงบตกแต่งไปได้ครึ่งงานเลยค่ะ

พิธีเรียบง่าย แต่ได้ใจในความอบอุ่น
         พิธีการช่วงนี้พอทุ่มกว่าๆ เราก็จะมีเดินเปิดตัว มีหลานเดินนำเพื่อโปรยดอกไม้ให้ เสร็จแล้วก็ขึ้นเวที ประธานกล่าวอวยพร คล้องพวงมาลัย พิธีกรเตรียมเกมส์มาให้เล่น  เป็นคำถามให้บ่าวสาวตอบพร้อมกัน ประกอบกับเจ้าบ่าวของเราเป็นคนตลก เขาก็จะยิงมุกฮาๆ บนเวทีค่ะ
         ถัดจากนั้นก็จะเป็นช่วงตัดเค้ก โยนดอกไม้ ซึ่งเราอยากให้เพื่อนเจ้าบ่าวมาร่วมสนุกด้วย เลยจะมีโยนกล่องเหล้าให้เพื่อนเจ้าบ่าว แล้วเราก็ทำมงกุฏ สายสะพาย คทาสำหรับคนที่ได้ดอกไม้ค่ะ

         จบงานเราปิดท้ายด้วยช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ส่วนนี้จะมีพนักงานโรงแรมมาช่วยเคลียร์พื้นที่ จัดโต๊ะเล็กๆ ด้านหน้าให้ นอกจากนี้เรายังได้เพื่อนนักดนตรีของเจ้าบ่าวมาช่วยเล่นเพลงเพิ่มความสนุก และมีพนักงานของโรงแรมช่วยเตรียมเครื่องดื่มให้กับเราค่ะ
         นุ้ยดีใจที่งานนี้เพื่อนๆ มาร่วมแสดงความยินดีกับเราเยอะมาก งานราบรื่น มีคนช่วยมากมาย ทั้งเจ้าหน้าที่โรงแรมที่ดูแลดีทุกจุด ช่วยเราซ้อมเดิน แทบจะถือกระโปรงให้ ทุกอย่างเป็นระบบมากๆ ย้อนกลับไปยังไงก็คงเลือกและทำทุกอย่างเหมือนเดิมเลยค่ะ เพราะมันออกมาโอเคมากๆ ประทับใจจริงๆ

แนะนำบ่าวสาว
งานแต่งงานไม่จำเป็นต้องใช้งบเยอะเสมอไป : แต่ควรเป็นงานที่มีความหมายกับเราจริงๆ อย่างของนุ้ยเองเพื่อนๆ ก็ช่วยกันเตรียมงานหลายอย่าง ทั้งการถ่ายพรีเซนเทชั่น พรีเวดดิ้ง ของชำร่วยนุ้ยก็ได้ทำพร้อมกันกับคุณแม่สามี สุดท้ายมันกลายเป็นประสบการณ์ที่เรามีร่วมกัน งานแต่งที่เราได้เตรียมเองบ้าง พอได้มานั่งนึกถึง มันก็เป็นความทรงจำที่อบอุ่นจริงๆ ค่ะ